ภารกิจ “ลดช่องว่างด้านทักษะดิจิทัล” เป็นความจำเป็นเร่งด่วนของทุกประเทศท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาด

การแพร่ระบาดระลอกล่าสุดที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ เป็นเครื่องย้ำเตือนว่าเราคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ขณะที่ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาและประเทศด้อยพัฒนาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ และทำให้ปัญหาช่องว่างทางเศรษฐกิจและสังคมยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

ช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทที่ปรึกษา McKinsey คาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดใกล้จะยุติลงในบางประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีการแจกจ่ายวัคซีนอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดกลับเลวร้ายลงในประเทศกำลังพัฒนาในทวีปแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา โดยมีการรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดในประเทศไทยในช่วงที่ประเทศกำลังจะเตรียมฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ทำให้เศรษฐกิจต้องชะงักอีกครั้ง และทำให้กลุ่มคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ไปอีกนานแค่ไหน

สำหรับประเทศกำลังพัฒนา และประเทศด้อยพัฒนาหลายๆ ประเทศ สถานการณ์ที่ยังคงยืดเยื้ออยู่นี้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อภาคธุรกิจ สุขภาพจิตของประชาชน และระบบการศึกษา ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาช่องว่างที่เกิดขึ้น ส่งเสริมความเสมอภาค และความเท่าเทียมกันในประเทศต่างๆ ทั้งนี้การปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสรรค์สรรค์คือสิ่งที่จะช่วยบรรลุเป้าหมายข้างต้น

ในประเทศไทย ประชาชนใช้โมบายแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ลงทะเบียนจองและรับวัคซีน ติดตามสถานะการรับวัคซีนทั้งสองโดส บันทึกผลข้างเคียง รวมถึงออกหลักฐานการรับวัคซีน โดยหมอพร้อมยังใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกผู้ใช้งานในการลงทะเบียนอีกด้วย

ด้วยความพยายามที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ และเร่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รัฐบาลไทยได้เปิดตัวโครงการต่างๆ เช่น “เราชนะ” เพื่อช่วยเหลือทางการเงินแก่ประชาชนผ่านแอปเป๋าตัง โดยคาดว่าโครงการนี้จะสามารถเยียวยาประชาชนได้มากถึง 33.5 ล้านคน

แม้วิธีการที่ใช้ช่วยเหลือประชาชนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนก็คือ เราจำเป็นต้องทำให้ประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศด้อยพัฒนามี “ทักษะทางด้านดิจิทัล” เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถมองหาหนทางใหม่ๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเราจำเป็นต้องจัดการฝึกอบรมด้านดิจิทัลที่มีคุณภาพ ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมสร้างทักษะให้แก่ผู้เรียนแล้ว ยังจะช่วยขยายโอกาสให้กับทุกคนในยุคดิจิทัล

รายงานเกี่ยวกับ “อนาคตของการทำงาน” (Future of Jobs) ในปี 2563 สภาเศรษฐกิจโลก พบว่ากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด “คือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคม” ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ รายงานประเมินว่าภายในปี 2568 อาจมีการยกเลิกตำแหน่งงานราว 85 ล้านตำแหน่ง และอาจมีตำแหน่งงานใหม่สำหรับบทบาทหน้าที่ใหม่เกิดขึ้นราว 97 ล้านตำแหน่ง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ เครื่องจักร และอัลกอริธึม

แรงงานไทยจำเป็นต้องพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการทำงานในอนาคต สอดคล้องกับรายการเรื่องทักษะดิจิทัลจาก World Economic Forum ในปี 2563 ชี้ว่ามีเพียง 54.9% ของแรงงานไทยที่มีองค์ความรู้ด้านทักษะดิจิทัล และจุดอ่อนคือ “ความไม่พร้อมในการปรับตัวสู่โลกเทคโนโลยีในอนาคต” ดังนั้นการเทรนนิ่ง การศึกษา และทัศนคติต่อการทำงานในอนาคต เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องส่งเสริมสำหรับแรงงานไทย

ด้วยตระหนักถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน International Finance Corporation (ในเครือธนาคารโลก) และอาลีเพย์ (Alipay) จึงร่วมมือกันเปิดตัว “โครงการ 10×1000 Tech for Inclusion” เมื่อปี 2561 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเทรนนิ่งบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี 10,000 คนในช่วงระยะเวลา 10 ปี

ด้วยความหวังว่าบุคลากรเหล่านี้จะช่วยสร้างสรรค์นวัตกรรม และการเติบโตให้แก่บริษัทหรือองค์กรที่ตนเองทำงานพร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจ แรงผลักดัน และบ่มเพาะบุคลากรรุ่นใหม่ราว 100,000 คนในประเทศบ้านเกิด ด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ ให้คำแนะนำ หรือส่งต่อโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ผู้อื่น

กรณีตัวอย่างของโครงการ 10X10,000 คือ Aruna บริษัทสตาร์ทอัพด้านอี-คอมเมิร์ซของอินโดนีเซีย ซึ่งผู้ก่อตั้งบริษัทสองคนได้ผ่านการฝึกอบรมในโครงการดังกล่าว แพลตฟอร์มของพวกเขาสามารถเชื่อมต่อชาวประมงท้องถิ่นกับลูกค้าโดยตรง เพื่อช่วยให้ชาวประมงมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจับปลา และบรรเทาปัญหาความยากจน นอกจากนี้ Aruna ยังได้บ่มเพาะ “ฮีโร่ท้องถิ่น” (Local Hero) ซึ่งหมายถึงเยาวชนในหมู่บ้านชายฝั่งทะเลที่ช่วยให้ความรู้แก่ชาวประมงถึงประโยชน์ของการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา โครงการนี้ได้จัดการฝึกอบรมในหลักสูตรใหม่ FinTech Foundation Program โดยมีผู้เข้าร่วมลงทะเบียนกว่า 160 คนจาก 17 ประเทศในทวีปเอเชีย ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ โดยผู้สอนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทคจากทั่วโลก ซึ่งสามารถปลูกฝังความคิดในการใช้เทคโนโลยี เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และบ่มเพาะความเป็นผู้นำ ทั้งยังช่วยให้ผู้เรียนได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกและแนวโน้มของอุตสาหกรรมอีกด้วย

โรซี่ คาห์นนา ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมประจำภูมิภาคเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และแปซิฟิกของ IFC กล่าวระหว่างการเปิดหลักสูตร FinTech Foundation Program ว่า “แรงงานในปี 2564 ต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่ไม่ปกติ และด้วยเหตุนี้เอง บทบาทหน้าที่ ความรู้ความสามารถ และการทำงานของพวกเขาจึงมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยให้ประเทศต่างๆ ฟื้นตัวอย่างยั่งยืนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก”

การแพร่ระบาดนับเป็นความท้าทายระดับโลกที่ต้องอาศัยการสร้างสรรค์นวัตกรรม และความมุ่งมั่นทุ่มเทของทุกภาคส่วนเพื่อที่จะเอาชนะวิกฤตในครั้งนี้ ขณะที่เราต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางด้านสุขภาพและเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อ เราจำเป็นต้องมองหาหนทางแก้ไขปัญหาในระยะยาวที่เหมาะกับท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อขจัดปัญหาความยากจน และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน

นั่นคือเหตุผลที่เราเชื่อว่าการแก้ไข “ปัญหาช่องว่างด้านทักษะดิจิทัล” ในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศด้อยพัฒนาโดยการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้นำด้านเทคโนโลยีในอนาคต จึงเป็นความจำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อสร้างโลกแห่งอนาคตที่สดใส ยั่งยืน และมอบโอกาสที่เท่าเทียมกันให้แก่ทุกคน

เรียบเรียงโดย นี ซิงจุน
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของแอนท์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการอาลีเพย์

เอสซีจี เซรามิกส์ตอกย้ำผู้นำกระเบื้องตกแต่ง คว้ารางวัลความเป็นเลิศด้วยนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและ ESG จาก Thailand Corporate Excellence Awards 2023 

นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทน บริษัทเอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) รับมอบ 2 รางวัลดีเด่น สาขาความเป็นเลิศด้านสินค้า-การบริการ Thailand Corporate Excellence Awards 2023  จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย...

WorldFirstประกาศแผนการเปิดตัวบริการWorld Account ในประเทศไทยและตลาดอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

• ขยายโซลูชันการเงินดิจิทัลอีคอมเมิร์ซสำหรับเอสเอ็มอีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปี 2566 – 2567 ให้สามารถเชื่อมต่อและเติบโตในตลาดอีคอมเมิร์ซระดับโลกได้มากขึ้น ด้วยบริการชำระเงินและบริการทางการเงินข้ามพรมแดนที่ปลอดภัย, รวดเร็ว และน่าเชื่อถือ • ลูกค้าเอสเอ็มอีในสิงคโปร์ของ WorldFirst รายงานว่าระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคมปี 2566 มียอดขายสินค้าออนไลน์รวมต่อเดือน(GMV) สูงขึ้นถึง 70% คลารา ชิ ซีอีโอของ WorldFirst ประกาศแผนการเปิดตัวบริการ World Account ในประเทศไทยและตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรุงเทพฯ - 6 ธันวาคม 2566 - WorldFirst แพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลและบริการทางการเงินสำหรับเอสเอ็มอีที่ทำการค้าระหว่างประเทศ ได้ประกาศแผนการเปิดตัวโซลูชันการเงินดิจิทัลสำหรับอีคอมเมิร์ซในตลาดใหม่ ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2566 และ 2567 โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนผู้ขายออนไลน์ให้เติบโตผ่านบริการชำระเงินและบริการทางการเงินข้ามพรมแดนที่ปลอดภัย รวดเร็ว...

LINE ดูดวง ชวนบริจาคเงินช่วยเหลือสังคม ได้บุญ พร้อมลดหย่อนภาษีได้

มีผู้กล่าวไว้ว่า สิ่งที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ภาษี และความตาย….อย่างหลัง คงเป็นจริงดังว่า แต่สำหรับภาษี ถึงจะเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็หาทางลดหย่อนกันได้นะ และนี่ก็ปลายปีกันแล้ว ใครที่มีรายได้ และหาช่องทางลดหย่อนภาษีอยู่ เชิญทางนี้เลย!! หากคุณเป็นผู้มีรายได้...

ผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญต่อการบริการที่ดีเยี่ยมมากกว่าราคาQualtrics เผยให้เห็นถึงแนวโน้มการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในปี 2567

เมื่อ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และมีความสำคัญอย่างมากในการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์, คุณภาพของสินค้าจึงมีความสำคัญมากกว่าราคา บริษัทต่างๆ จึงจำเป็นต้องค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภค ผลการวิจัยล่าสุดที่เผยแพร่ โดย Qualtrics เปิดเผยว่า ในประเทศไทยผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญต่อการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยมมากกว่าเรื่องราคา

บริษัท โคเวอร์แมท เซ็น MOU กับ ไดเวอร์ซี่ ไฮยีน (ประเทศไทย) ขยายธุรกิจกลุ่ม Healthcare เสริมทัพกลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ด้านทำความสะอาด ฆ่าเชื้อทางการแพทย์ แบบครบวงจร

บริษัท โคเวอร์แมท จำกัด ผู้นำตลาดด้านอุตสาหกรรมสีเขียวรักษ์โลก และสินค้ากลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์แบบสิ้นเปลือง นำโดย คุณณัฐวุฒิ เลิศรัตน์เดชากุล ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการฝ่ายบริหาร (ที่ 3 จากขวา) และคุณ Vikas Mittal (กรรมการผู้จัดการ (Thailand,...

ฮีโน่ รับมอบรางวัล BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2023“ด้านยานยนต์ ประเภทรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ HINO MY23”

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา มิสเตอร์ เคน อิวาโมโต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด รับมอบรางวัล Business+ Product of...