

โรงพยาบาลยันฮี หนึ่งในผู้นำด้านการรักษาสุขภาพและความงามที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ครอบคลุมตั้งแต่ศูนย์รักษาโรคทั่วไป ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง ศูนย์ทันตกรรม และศูนย์แพทย์ทางเลือก โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ซึ่งครั้งนี้ รพ.ยันฮีร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานระดับโลก ส่งแพทย์เฉพาะทางร่วมประชุมวิชาการโรคอ้วนนานาชาติ “Obesity Week 2023” งานประชุมวิชาการด้านโรคอ้วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา มุ่งเชื่อมโยงองค์ความรู้และนวัตกรรมอันทันสมัย สู่การเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์และการดูแลผู้ป่วยสู่มาตรฐานระดับสากล

แพทย์หญิงกัลยาณี พรโกเมธกุล แพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางด้านการรักษาโรคอ้วน และระบบทางเดินอาหารและตับ ศูนย์รักษาโรคอ้วน (Obesity Center) โรงพยาบาลยันฮี หนึ่งในบุคลากรสำคัญจากโรงพยาบาลยันฮี และถือเป็น 1 ใน 14 แพทย์ไทยที่มีโอกาสได้เข้าร่วมงาน เผยว่า “โรคอ้วนเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้นิยามของโรคอ้วนไว้ว่า เป็นภาวะความผิดปกติของร่างกายที่สะสมไขมันมากเกินไปจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ทั่วโลกประชากรจำนวนมากกว่า 4 ล้านคน เสียชีวิตจากการที่มีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคอ้วนจะมีโอกาสเสียชีวิตและเจ็บป่วยรุนแรงมากกว่าคนปกติถึง 7 เท่า โดยสหพันธ์โรคอ้วน(World Obesity Federation) คาดการณ์ภายในปี 2573 ประชากรอายุต่ำกว่า 20 ปี จะมีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนสูงขึ้นอีกเกือบร้อยละ 50



ในประเทศไทยโรคอ้วนเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่า เด็กไทยมีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน ติด 1 ใน 3 ของอาเซียน ซึ่งเด็กไทยอายุ 0-5 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 9.13 เด็กวัยเรียน 6-14 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 13.4 และเด็กวัยรุ่น 15-18 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 13.2 โดยคนไทยอายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป เกือบครึ่งน้ำหนักเกิน และกว่า 1 ใน 3 เป็นโรคอ้วน ส่วนปัญหาน้ำหนักเกินหรืออ้วนในผู้ใหญ่ ในพ.ศ. 2565 อยู่ที่ 47.8%สอดคล้องกับรายงานของสำนักโภชนาการ พ.ศ. 2563 พบว่า ภาวะอ้วนในผู้หญิงอยู่ที่ 46.4% และผู้ชาย 37.8% โดยพบว่าภาวะอ้วนส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร”

สำหรับ การประชุมวิชาการโรคอ้วนนานาชาติ หรือ Obesity Week 2023 ถือเป็นการประชุมวิชาการด้านโรคอ้วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดโดยสมาคมโรคอ้วนนานาชาติ (Obesity Society : TOS) ในระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2566 ณ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อมุ่งผลักดันและกระตุ้นการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคอ้วน ด้วยวิทยาการใหม่ๆ การรักษาให้ก้าวต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “การเชื่อมโยง(Connection)” ที่เน้นการเชื่อมโยงองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านการรักษาโรคอ้วนกับผลการวิจัย เวชปฏิบัติ และเครือข่ายความร่วมมือ ภายในงานมีการนำเสนอผลการวิจัย นวัตกรรมอันทันสมัยและเสวนาเชิงวิชาการด้านโรคอ้วนจากแพทย์ นักวิจัย และสมาชิกเครือข่ายสมาคมโลกอ้วนจากทั่วโลก โดยเน้นเข้าร่วมประชุมคลัสเตอร์ด้านการดูแลโรคอ้วน นวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดจนการผ่าตัดและการใช้ตัวยาใหม่ เพื่อนำไปสู่การดูแลคนไข้แบบครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นหารอยโรคจากยีนส์และปัจจัยอื่น ๆ ที่นำไปสู่โรคอ้วน การควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ


“ปัจจุบัน โรงพยาบาลยันฮี นับเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพการรักษาโรคอ้วนได้อย่างครอบคลุมโดยแพทย์สหสาขา ตั้งแต่การใช้ยาฉีดควบคุมความหิว การใส่บอลลูนกระเพาะอาหาร การสลายไขมันกระชับสัดส่วนเฉพาะจุดด้วยการใช้เครื่องมืออันทันสมัย การดูดตัดไขมัน รวมทั้งการใช้ยาลดน้ำหนัก ภายใต้การให้คำแนะนำและดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
และการเข้าร่วมงานวิชาการระดับโลกครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญยิ่ง ที่จะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการดูแลผู้ป่วยโรคอ้วน และมุ่งมั่นเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์และการบริการ ทั้งยังเป็นการยืนยันให้ผู้รับบริการมั่นใจได้ว่า โรงพยาบาลยันฮี เป็นหนึ่งในสถานพยาบาลครบวงจรของประเทศไทย ที่เปี่ยมด้วยมาตรฐานและความปลอดภัยสูงสุด และพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ดี และความพึงพอใจให้กับผู้รับบริการทุกท่านอย่างดียิ่งตลอดไป” แพทย์หญิงกัลยาณี ทิ้งท้าย
ข้อมูลอ้างอิง
1. กรมควบคุมโรคhttps://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=32470&deptcode=brc
2. สื่อมีเดียอนามัย https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/news0633-2/