นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย (สคต.มุมไบ) ว่าได้หารือกับผู้แทนภาคเอกชนของอินเดีย และทราบถึงความต้องการที่จะมีพื้นที่ออนไลน์ให้ผู้ประกอบการทั้งสองประเทศได้ทำความรู้จักกันง่ายขึ้นก่อนที่จะเดินทางไปพบปะกันโดยตรง
สคต. มุมไบ จึงได้ประสานจัดทำพื้นที่ออนไลน์ดังกล่าวภายใต้แพลตฟอร์มของ Global Linker ซึ่งเป็นสังคมออนไลน์ที่คนอินเดียคุ้นเคยและมีสมาชิกอยู่แล้วกว่าแสนราย โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ภาครัฐ และ สถาบันการศึกษา เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนและหาแนวทางสนับสนุนด้วย เพื่อช่วยกันส่งเสริมการค้าในกลุ่มสินค้าที่ไทยและอินเดียสามารถเกื้อกูลกันได้ (Sister Clusters) โดยเฉพาะอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งทั้งสองประเทศต่างซื้อสินค้าของกันและกัน รวมถึงมีการลงทุนระหว่างกันด้วย จึงได้เลือกให้เป็นคลัสเตอร์แรกในการเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยมีชื่อว่า Sister Cluster of Thai – India Jewellery
สำหรับวัตถุประสงค์ในการสร้างเครือข่ายออนไลน์นี้คือการลดข้อจำกัดหลายประการ อาทิ ข้อกังวลเกี่ยวกับการตรวจสอบสถานะตัวตนของคู่ค้า และระบบการชำระเงินที่ผู้ประกอบการมั่นใจ ซึ่ง Sister Cluster of Thai – India Jewellery จะช่วยเอื้อให้ SMEs และวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพในการส่งออก สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้นำเข้าและติดต่อนัดหมายเพื่อเจรจาการค้าได้ง่ายขึ้นและต่อเนื่อง โดยมีภาคีต่างๆ คอยช่วยเหลือ อาทิ สมาคมธุรกิจและมหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ รวมถึงธนาคารในไทยและอินเดีย ที่จะเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันสนับสนุน อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) ของไทย และ HSBC India รวมถึง ICICI ซึ่งได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Global Linker แล้ว และมีแผนจะทำระบบเอกสารการชำระเงินแบบบล็อกเชน (Blockchain) เข้ามาปรับใช้ด้วย
น.ส. สุพัตรา แสวงศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในประเทศ ณ เมืองมุมไบ กล่าวว่า ในเดือนมกราคม 2564 ทาง สคต.มุมไบ จะมีการจัดเสวนาออนไลน์ให้สมาชิกในเครือข่ายได้พบปะและแชร์ความเห็นกัน ทั้งนี้ คลัสเตอร์อัญมณีและเครื่องประดับเป็นสาขาที่ไทยและอินเดียสามารถแลกเปลี่ยนกันซื้อและลงทุนร่วมกันได้ เพราะอินเดียยอมรับในคุณภาพพลอยสีและทองคำจากไทยโดยนำไปต่อยอดมูลค่าเพิ่มเพื่อส่งออกได้ ในขณะที่ไทยก็ต้องการเพชรและใช้อินเดียเป็นช่องทางขยายตลาดเช่นกัน การติดต่อและความร่วมมือที่ใกล้ชิดจึงจะช่วยให้เติบโตไปด้วยกันได้
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัดจันทบุรีและ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการไทยเข้ามาใช้เครือข่ายออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งจังหวัดจันทบุรีได้จัดงานเทศกาลนานาชาติ “พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี” The International Chanthaburi Gems and Jewelry Festival 2020 เมื่อวันที่ 18 – 22 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาภายใต้แนวคิด Grow Together โดยได้รับเกียรติจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมเครือข่ายออนไลน์ไทย-อินเดีย ผ่านสามารถติดต่อได้ที่ thaitrademumbai@gmail.com ทั้งนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะภาคตะวันออกของไทยเท่านั้น แต่รวมถึงคลัสเตอร์อัญมณีและเครื่องประดับในภาคใต้และภาคอื่นๆ ด้วย สำหรับคลัสเตอร์ต่อไปที่ สคต.มุมไบ จะเชื่อมโยงเครือข่ายออนไลน์ระหว่างกันคาดว่าจะเป็นผลไม้และผลิตภัณฑ์ผลไม้