Home Technology เซลส์ฟอร์ซ เผยโฉมเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับแพลตฟอร์ม Digital 360 ในงาน Salesforce Connections 2021 ส่งเสริมธุรกิจก้าวสู่ยุคดิจิทัล

เซลส์ฟอร์ซ เผยโฉมเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับแพลตฟอร์ม Digital 360 ในงาน Salesforce Connections 2021 ส่งเสริมธุรกิจก้าวสู่ยุคดิจิทัล

0
เซลส์ฟอร์ซ เผยโฉมเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับแพลตฟอร์ม Digital 360 ในงาน Salesforce Connections 2021 ส่งเสริมธุรกิจก้าวสู่ยุคดิจิทัล

• เพิ่มประสิทธิภาพให้แพลตฟอร์ม Marketing Cloud จัดการข้อมูลลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อเข้าถึงลูกค้าแบบเรียลไทม์ จัดหมวดหมู่ลูกค้า รวมไปถึงจัดการรอยัลตี้ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
แพลตฟอร์ม Commerce Cloud ที่มาพร้อมการรวบรวมข้อมูลแบบใหม่ ยกระดับการจัดการออเดอร์สั่งซื้อ และรองรับการใช้งาน headless commerce สำหรับธุรกิจที่ไม่ต้องการใช้การโค้ดดิ้ง

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 3 มิถุนายน 2564 – งาน Salesforce Connection Keynote ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่ซานฟรานซิสโก เซลส์ฟอร์ซ [NYSE: CRM] ผู้นำด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ระดับโลก เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่สำหรับแพลตฟอร์ม Digital 360 ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ธุรกิจปรับตัวเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลได้เร็วยิ่งขึ้น พร้อมช่วยพัฒนาระบบงานด้านการตลาด คอมเมิร์ซ และดิจิทัลให้ธุรกิจสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ทันสมัย น่าประทับใจให้แก้ลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

การใช้ประโยชน์จากระบบดิจิทัลแบบเต็มที่นั้น หมายถึงการธุรกิจที่ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง เชื่อมต่อ อีกทั้งเข้าใจความชอบ และความต้องการของลูกค้าอย่างถ่องแท้ ซึ่งเทคโนโลยีที่เซลส์ฟอร์ซเปิดตัวในวันนี้คือการนำเอาข้อมูลและระบบดิจิทัลมาใช้งานร่วมกันเพื่อให้เกิดประสบการณ์ดังกล่าว ธุรกิจจะสามารถเชื่อมต่องานทั้งในด้านการตลาด คอมเมิร์ซ และการบริการ เข้าด้วยกันโดยมีลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง

Marketing Cloud: เปิดประสบการณ์การตลาดยุคใหม่
Marketing Cloud เวอร์ชั่นใหม่จะเป็นตัวช่วยนักการตลาดให้สามารถเข้าใจลูกค้าได้อย่างแท้จริง พร้อมนำเอาความอัจฉริยะของ AI มาเป็นตัวช่วยในการส่งมอบประสบการณ์ที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้าแต่ละราย สร้างรอยัลตี้ิี อีกทั้งเป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์ให้เข้าใจถึงผลตอบรับทางการตลาดเพื่อประสิทธิภาพที่แท้จริง
• Salesforce CDP เป็นแพลตฟอร์มจัดการข้อมูลลูกค้าธุรกิจ โดยเพิ่มการโต้ตอบกับลูกค้าในแบบทุกที่ทุกเวลา โดนผู้ใช้งานจะสามารถรวบรวมข้อมูลจาก CRM ของเซลส์ฟอร์ซ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านการขาย การบริการ การตลาด รอยัลตี้และคอมเมิร์ซ เพื่อนำเสนอการตลาดและโฆษณาที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและลูกค้า รวมถึงสร้างรายได้ในเวลาเดียวกัน วันนี้ Salesforce CDP ได้ผ่านการผสาน 2 เทคโนโลยี เข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้บริษัทของผู้ใช้งานสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่รวดเร็ว ในทุกที่ ทุกเวลา ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

● Interaction Studio คือตัววิเคราะห์การโต้ตอบของแบรนด์ในทุกช่องทาง และใช้ AI อัจฉริยะของเซลส์ฟอร์ซอย่าง Einstein เพื่อจับจุดการโต้ตอบ พร้อมส่งข้อความ ข้อเสนอผลิตภัณฑ์ หรือแนะนำเนื้อหาให้ลูกค้าในทันที
● Loyalty Management คือตัวช่วยในการจัดกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจแบบเรียลไทม์ โดยให้ข้อมูลลูกค้า อาทิ สถานะการเป็นสมาชิก ระดับรอยัลตี้ และคะแนนสะสม เป็นต้น
• Datorama Reports สำหรับ Marketing Cloud: ขับเคลื่อนโดย Datorama ซึ่งนำเสนอผลการวิเคราะห์ Marketing Cloud ให้นักการตลาดศึกษาช่องทางการใช้งานต่าง ๆ ของลูกค้าในรูปแบบรายงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายใต้อินเทอร์เฟซ Marketing Cloud ที่ครบวงจร
• Marketer Career Path จาก Trailhead: Trailhead แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยเซลส์ฟอร์ซ ตัวช่วยส่งเสริมผู้ใช้งานที่มองหาจุดเริ่มต้นหรือสร้างเส้นทางสู่สายงานการตลาด โดยมี badge ให้ผู้ใช้งานได้เก็บสะสมมากกว่า 2 ล้านสกิลเพื่อเรียนรู้ทักษะทางการตลาด Trailhead เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ที่เจาะจงตามเนื้องาน พร้อมทั้งเป็นศูนย์รวมของนักการตลาดผู้เชี่ยวชาญ และให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดเส้นทางการเรียนรู้เองได้ เพื่อเพิ่มทักษะสำหรับเส้นทางอาชีพทางการตลาดที่ตนเองต้องการ ไม่ว่าจะเป็นในหัวข้อที่เกี่ยวกับอีเมล, demand generation, การวิเคราะห์การตลาด, วิทยาศาสตร์ของข้อมูล, และการเป็นผู้นำซีเอ็มโอ
• Snapchat Audience Match: นักการตลาดสามารถใช้ first-party data จากเซลส์ฟอร์ซ เพื่อจัดแจงและคัดเลือกผู้ชมโฆษณาให้ตรงเป้าหมายและเจาะจงเฉพาะบุคคลบนแอป Snapchat ผ่านข้อมูลลูกค้าที่บริษัทมีอยู่แล้ว เพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยเนื้อหาที่ตรงกับความชอบของแต่ละคนบนแพลตฟอร์ม
• WhatsApp Integration: ให้ธุรกิจสามารถใช้โซลูชัน WhatsApp Business ของ Marketing Cloud เพื่อเพิ่ม Engagement กับลูกค้า ผ่านการตรวจจับ Keyword หรือข้อความธุรกรรม เป็นต้น เพื่อธุรกิจจะสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงผ่าน WhatsApp รวมไปถึงตั้งค่าบัญชี, ช่องทาง, และเทมเพลตข้อความได้อย่างง่ายดาย

Commerce Cloud: ยุคใหม่แห่งอีคอมเมิร์ซ ชูลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
Commerce Cloud จะช่วยสร้างโอกาสการกลับมาซื้อซ้ำให้แก่ธุรกิจ โดยช่วยสร้างความสัมพันธ์ตลอดชีวิตระหว่างธุรกิจและลูกค้า โดยการส่งมอบเทคโนโลยีที่ช่วยระบุแนวโน้มทิศทางของธุรกิจ และปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้า พร้อมทั้งเชื่อมโยงเส้นทางการค้าแบบครบวงจรได้ตั้งแต่หน้าร้านออนไลน์ ไปจนถึงจัดการออเดอร์คำสั่งซื้อ เป็นต้น
• Salesforce CDP สำหรับ Commerce: ด้วยข้อมูลจาก Commerce Cloud ที่รวมเข้ากับ Salesforce CDP บริษัทของผู้ใช้งานจะได้รับมุมมองที่สมบูรณ์เกี่ยวกับข้อมูลลูกค้าแบบบุคคลที่หนึ่ง ในทุกจุดของการติดต่อ จากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องเพียงแหล่งข้อมูลเดียว นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถใช้ข้อมูลคอมเมิร์ซในเชิงการตลาดแบบข้ามช่องทางได้อีกด้วย
• B2B2C Commerce: ด้วยแอป B2B2C Commerce ตัวใหม่ บริษัท B2B ของผู้ใช้งานจะสามารถเปิดหน้าร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่เชื่อมต่อโดยตรงไปยังผู้บริโภค (D2C) ได้อย่างรวดเร็วผ่านการคลิกควบคุม โดยไม่ใช่โค้ดให้ยุ่งยาก ซึ่งบริษัทของผู้ใช้งานที่ขายสินค้าผ่านผู้จัดจำหน่ายและผู้ค้าปลีก จะสามารถบันทึกข้อมูล first-party data ช่วยทำให้ตัวแทนเข้าใจฐานลูกค้าทั้งหมดของบริษัทผู้ใช้งานได้ดีขึ้น พร้อมทั้งเชื่อมต่อโดยตรงกับฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ รวมไปถึงปลดล็อกกระแสรายได้ใหม่ไปในตัวอีกด้วย
• Salesforce Order Management: ด้วย Omnichannel Inventory, Distributed Order Management และ Order Management สำหรับ B2B ธุรกิจจะมีอำนาจมากกว่าปุ่มกดซื้อ แต่ให้อำนาจในการเติมเต็ม ส่งมอบ และดูแลรอยัลตี้อีกด้วย Omnichannel Inventory และ Distributed Order Management ช่วยให้บริษัทของผู้ใช้งานสามารถมองเห็นสินค้าในคลังแบบเรียลไทม์ทั่วทั้งเครือข่ายของร้านค้าได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับให้หน้าร้านกลายเป็นศูนย์กระจายสินค้า และมอบทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเลือกวิธีรับสินค้า ไม่ว่าจะเป็น ภายในวันเดียวกับวันสั่งซื้อ หรือซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์และมารับด้วยตัวเอง เป็นต้น ด้วยขีดความสามารถของ Order Management สำหรับ B2B ผู้ซื้อธุรกิจจะมีความโปร่งใสและอำนาจควบคุมต่อการติดตามคำสั่งซื้อด้วยตนเอง การยกเลิก การแก้ไขคำสั่งซื้อ เป็นต้น
• Headless PWA Kit และ Managed Runtime: ด้วย Progressive Web Application (PWA) Kit และ Managed Runtime ทีมนักพัฒนาสามารถแยกเทคโนโลยี front-end และ back-end ออกได้อย่างรวดเร็ว พร้อมประหยัดต้นทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ในการตอบสนองผู้บริโภค หรือที่เรียกว่าการค้าแบบ headless commerce โซลูชันคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิมใช้เวลาหลายเดือนในการติดตั้ง และยังตัดการเชื่อมต่อจากเส้นทาง Customer Journey ของลูกค้าทั้งหมดอีกด้วย ซึ่ง Salesforce Headless Commerce จะเป็นตัวช่วยนักพัฒนาให้สามารถใช้เวลาน้อยลงในการบำรุงรักษาโครงสร้าง และมีเวลามากขึ้นในการสร้างประสบการณ์เชิงโต้ตอบและสร้างสรรค์ให้แก่ลูกค้า

การวางจำหน่าย:
• Salesforce CDP สำหรับ Loyalty Management, Datorama Reports สำหรับ Marketing Cloud, WhatsApp Integration, Distributed Order Management และ Omnichannel Inventory พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้เป็นต้นไป
• B2B2C Commerce, Salesforce CDP สำหรับ Interaction Studio และ Snapchat Audience Match พร้อมวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2564
• Salesforce Headless PWA Kit และ Managed Runtime พร้อมวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2564
• Order Management สำหรับ B2B และ Salesforce CDP สำหรับ Commerce Cloud พร้อมวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2564