หัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย เผยโฉมสายผลิตภัณฑ์โซลูชันอัจฉริยะในงาน POWERING DIGITAL THAILAND 2021 HUAWEI CLOUD & CONNECT เน้นสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการเงิน อุตสาหกรรมการศึกษา อุตสาหกรรมโครงข่ายพื้นฐาน และอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกในประเทศไทยให้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ICT ตอบรับเทรนด์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัลในยุคไทยแลนด์ 4.0″
ปัจจุบัน เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในภาคอุตสาหกรรมและการปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล ตอบรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการปรับตัวของภาคธุรกิจต่างในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จึงร่วมมือกับ บริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชน) และพาร์ทเนอร์ในประเทศอีกกว่า 50 ราย จัดงาน “POWERING DIGITAL THAILAND 2021 HUAWEI CLOUD & CONNECT” เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีนวัตกรรมซึ่งสามารถนำมาปลดล็อกโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ตลาดใหม่ รวมไปถึงรูปแบบธุรกิจใหม่ให้แก่ประเทศไทย เพื่อช่วยผลักดันนวัตกรรมและภาคการศึกษา ครอบคลุมเทรนด์รูปแบบการศึกษาในยุคนิวนอร์มัล
ความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและสถาบันการศึกษา และเทคโนโลยี ICT สำหรับการศึกษาในยุคอัจฉริยะ
ยกระดับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ตอบรับยุคใหม่ของโครงข่ายอัจฉริยะ การนำเทคโนโลยีโซลูชันสำหรับแคมปัสอัจฉริยะไปประยุกต์ใช้ในองค์กร นวัตกรรมด้านโครงข่ายสำหรับองค์กรและสาขาย่อยขององค์กร รวมถึงโครงข่ายอันสามารถขับเคลื่อนได้อย่างอัตโนมัติในยุคอัจฉริยะ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแข็งแกร่ง
ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน เพื่อโลกอัจฉริยะที่ยั่งยืน วิสัยทัศน์ของ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ คือการเป็นผู้นำเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและสร้างโลกที่อัจฉริยะอย่างยั่งยืน ถึงแม้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและโลกของเราอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ปริมาณข้อมูลที่ต้องได้รับการประมวลผลมากขึ้นจากไซต์โครงข่ายโทรคมนาคม ศูนย์ข้อมูล และอื่นๆ ก็ทำให้เกิดการใช้พลังงานสูงขึ้นตามไปด้วย หัวเว่ยจึงต้องการนำนวัตกรรมมาใช้ในด้านพลังงานสำหรับการประมวลผล ฐานข้อมูล และการเปลี่ยนผ่านเพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน และสนับสนุนอนาคตของโลกดิจิทัลอันยั่งยืน เพื่อช่วยผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลให้แก่ภาคอุตสาหกรรมการเงิน ครอบคลุมการปรับตัวขององค์กรการเงินในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมในยุคนิวนอร์มัล การปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลของภาคธนาคาร และนวัตกรรมเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจการเงินการธนาคารแห่งอนาคต
ภายในงาน กลุ่มธุรกิจหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย ได้นำเสนอมุมมองใหม่และโซลูชันสำคัญให้แก่ 4 ภาคอุตสาหกรรมใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมการเงิน ภาคอุตสาหกรรมการศึกษา ภาคอุตสาหกรรมโครงข่ายพื้นฐาน และภาคอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก เพื่อตอบรับกับการปรับตัวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย ตามวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยที่ต้องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ทุกคน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ โดยครอบคลุม 4 หัวข้อใหญ่ ดังนี้
- ICT เพื่อช่วยผลักดันนวัตกรรมและภาคการศึกษา ครอบคลุมเทรนด์รูปแบบการศึกษาในยุคนิวนอร์มัล ความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและสถาบันการศึกษา และเทคโนโลยี ICT สำหรับการศึกษาในยุคอัจฉริยะ
- ยกระดับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ตอบรับยุคใหม่ของโครงข่ายอัจฉริยะ การนำเทคโนโลยีโซลูชันสำหรับแคมปัสอัจฉริยะไปประยุกต์ใช้ในองค์กร นวัตกรรมด้านโครงข่ายสำหรับองค์กรและสาขาย่อยขององค์กร รวมถึงโครงข่ายอันสามารถขับเคลื่อนได้อย่างอัตโนมัติในยุคอัจฉริยะ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแข็งแกร่ง
- ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน เพื่อโลกอัจฉริยะที่ยั่งยืน วิสัยทัศน์ของ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ คือการเป็นผู้นำเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและสร้างโลกที่อัจฉริยะอย่างยั่งยืน ถึงแม้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและโลกของเราอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ปริมาณข้อมูลที่ต้องได้รับการประมวลผลมากขึ้นจากไซต์โครงข่ายโทรคมนาคม ศูนย์ข้อมูล และอื่นๆ ก็ทำให้เกิดการใช้พลังงานสูงขึ้นตามไปด้วย หัวเว่ยจึงต้องการนำนวัตกรรมมาใช้ในด้านพลังงานสำหรับการประมวลผล ฐานข้อมูล และการเปลี่ยนผ่านเพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน และสนับสนุนอนาคตของโลกดิจิทัลอันยั่งยืน
- ICT เพื่อช่วยผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลให้แก่ภาคอุตสาหกรรมการเงิน ครอบคลุมการปรับตัวขององค์กรการเงินในการนำเทคโนโลยี ICT มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมในยุคนิวนอร์มัล การปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลของภาคธนาคาร และนวัตกรรมเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจการเงินการธนาคารแห่งอนาคต
ทั้งนี้ นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ได้กล่าวถึงบทบาทของหัวเว่ยในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมการเงินของประเทศไทยว่า “หัวเว่ยและพาร์ทเนอร์ในอีโคซิสเต็มของเราจะยังคงสนับสนุนเทคโนโลยีให้แก่ภาคธนาคารและภาคอุตสาหกรรมการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจและการพัฒนาภาคสังคมของประเทศไทย โดยปัจจุบัน หัวเว่ยได้ให้การสนับสนุนธนาคารชั้นนำของประเทศไทยหลายแห่ง และเราจะให้การสนับสนุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต”
ด้านนางบุษกร ธีระปัญญาชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้แสดงความมั่นใจว่าเทคโนโลยีอันล้ำสมัยจะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมการเงินได้รวดเร็วขึ้นในอนาคต โดยเธอมองว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะเบิกทางให้กับการพัฒนาบริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัลให้สะดวก รวดเร็ว ประหยัด และสามารถเชื่อมต่อกับระบบทั้งในและนอกประเทศได้ดีขึ้น ทั้งนี้ การสร้างอีโคซิสเต็มสำหรับภาคการเงินและความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่างทุกภาคส่วนหลักในภาคอุตสาหกรรมถือเป็นเรื่องสำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ผลักดันนโยบายหลักๆ เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มด้านการเงินที่ยั่งยืน มุ่งเน้นไปที่บริการทางการเงิน อาทิเช่น การชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล ฟินเทค และความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นต้น ซึ่งผู้ให้บริการทางการเงินทั้งฝั่งของธนาคารพาณิชย์และบริษัทเทคโนโลยีอย่างหัวเว่ยจะมีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ อย่างแน่นอน และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยียังจะผลักดันด้านการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล เปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการด้านการเงินสามารถปรับแต่งสินค้าและบริการให้ตอบรับกับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
งาน POWERING DIGITAL THAILAND 2021 HUAWEI CLOUD & CONNECT จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2020 ณ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิร์ลด์ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้แลกเปลี่ยนไอเดียที่น่าสนใจกับผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรม สำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ไปพร้อมกับผู้นำในวงการธุรกิจ เรียนรู้มุมมองและเทรนด์ล่าสุดของภาคอุตสาหกรรมรวมถึงเทคโนโลยี ICT รวมทั้งสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ในการใช้งานแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ อีกด้วย