Home PR. News เอสซีจี เซรามิกส์ ตอกย้ำความแข็งแกร่ง ดันกระเบื้อง COTTO ปักหมุด “สุดยอดแบรนด์”

เอสซีจี เซรามิกส์ ตอกย้ำความแข็งแกร่ง ดันกระเบื้อง COTTO ปักหมุด “สุดยอดแบรนด์”

0
เอสซีจี เซรามิกส์ ตอกย้ำความแข็งแกร่ง ดันกระเบื้อง COTTO ปักหมุด “สุดยอดแบรนด์”

ยาวต่อเนื่องกว่า 10 ปี  ด้วยโมเดลนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน 

COTTO ผู้นำเทรนด์ ด้วยนวัตกรรมที่มาพร้อมโซลูชั่น หนึ่งในผลิตภัณฑ์ภายใต้บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งของแบรนด์ ด้วยรางวัลคุณภาพ  “ Thailand’s Most Admired Brand 2022 สุดยอดแบรนด์ครองใจมหาชน” ติดต่อกันเป็นปีที่ 11ในฐานะ “แบรนด์ที่สามารถครองความน่าเชื่อถืออันดับ 1” ในหมวดกระเบื้องเซรามิกปูพื้น บุผนัง จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีความเชื่อถือและความไว้วางใจต่อแบรนด์ชั้นนำของประเทศไทย  โดยนิตยสาร BrandAge  ตอกย้ำให้กระเบื้อง COTTO มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ไม่ใช่เพียง “วัสดุตกแต่ง ” เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ COTTO ยังมองไปถึง การมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และการอยู่ร่วมกันของผู้คน สังคมและสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้ฉลาก เอสซีจี กรีนชอยส์ (SCG Green Choice) ฉลากสิ่งแวดล้อมที่รับรองโดยเจ้าของผลิตภัณฑ์เอง (Self-Declared) ตามมาตรฐาน ISO 14021

นายนำพล  มลิชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำเร็จของกระเบื้อง COTTO จากการได้รับรางวัล “ Thailand’s Most Admired Brand 2022 สุดยอดแบรนด์ครองใจมหาชน”   ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ว่า “ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ กระเบื้อง COTTO ได้รับความเชื่อมั่น ให้เป็น “แบรนด์” อันดับ 1 ต่อเนื่องมาตลอดนั้นทำให้ ความมุ่งมั่นในการพัฒนาของ COTTO ในวันนี้  เรามองข้ามผ่านคุณสมบัติของ “กระเบื้อง” ที่เป็นเพียง วัสดุตกแต่ง ของบ้านแต่หมายรวมถึง การมีส่วนร่วม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และการอยู่ร่วมกันของผู้คน สังคมและสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน ไปด้วยกัน  

การแพร่ระบาดของโควิด 19 อาจเป็นตัวเร่งที่ส่งผลให้เราได้หวนตระหนักถึง ที่พักอาศัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เพิ่มมากขึ้น การพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชั่น ที่ให้ความสำคัญต่อสุขอนามัยของการพักอาศัย ในกลุ่ม COTTO Health & Clean อาทิ กระเบื้อง Hygienic Tile หรือกระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย ที่เปิดแนะนำตัวก่อนหน้าการแพร่ระบาด โควิด 19  และยังคงพัฒนาต่อเนื่องอยู่ในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติของสาร Silver Nano ที่ปล่อยประจุบวกเพื่อยับยั้งแบคทีเรียบนพื้นผิวกระเบื้อง ได้มากถึง 90% ตลอดอายุการใช้งาน จากการรับรองผลการทดสอบและควบคุมโดยมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น JIS Z2801 ทนต่อทุกสภาพการใช้งาน ช่วยให้ลดความเสี่ยงจากการได้รับเชื้อจากการสัมผัส และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม   หรือ

นวัตกรรมเพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงาน ของ กระเบื้องฟอกอากาศ COTTO AIR ION ที่มีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 89 % ภายใน 30 นาที เมื่อติดตั้งกระเบื้อง AIR ION บนพื้นที่การใช้งาน เพียง 40% ของห้อง** และยังสามารถเพิ่มมวลอากาศสดชื่น โดยไม่ใช้ไฟฟ้า เพื่อมอบอากาศบริสุทธิ์ให้กับทุกคนในบ้านภายใต้ฉลาก SCG Green Choice ฉลากที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสื่อสารให้ลูกค้าได้มั่นใจ ทุกครั้งที่เลือกใช้กระเบื้อง หรือวัสดุตกแต่งภายใต้แบรนด์ COTTO ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและ ช่วยโลกด้วยอย่างแน่นอนมาเป็นตัวช่วยผู้บริโภคในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้ง่ายยิ่งขึ้น” นายนำพลกล่าว และเพิ่มเติมว่า

 “ ล่าสุด คอตโต้ได้รับความสำเร็จจากการนำ Waste ในกระบวนการการผลิตนำหมุนกลับมาใช้ใหม่เป็นส่วนประกอบถึง 80% ด้วยการเปิดตัวกระเบื้อง ECO Collection ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการใช้พลังงาน สร้างมูลค่าเพิ่มจากนวัตกรรมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ผ่านแนวทาง ‘ESG 4 Plus’ อีกทั้งยังไม่ลืมตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำเทรนด์นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและมุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อวิถีชีวิตสมัยใหม่ หรือ  New Normal ของแบรนด์ COTTO เพิ่มมากขึ้น ” นายนำพลกล่าวสรุป

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมสินค้าพร้อมขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่  https:/www.cottolife.com/  และLine Official Account : @COTTOlife >> http://bit.ly/2D5BeJd  หรือเยี่ยมชมเลือกซื้อได้ที่ COTTO Life  ทั้ง 3 สาขา กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น  นอกจากนี้ยังมีร้านวัสดุก่อสร้างชั้นนำ หรือร้านค้าผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ 

**ภายใต้การทดสอบ : ตามมาตรฐาน SS 554:2016 Singapore standard โดยสถาบัน ALS Laboratory Group (Thailand) และ JIS B 9929:2006 Standard for measuring methods of airbone ion density (FOREIGN STANDARD)  โดยสถาบัน TUV SUD ประเทศสิงค์โปร์