Home Event กรมพัฒน์ฯ เยือน กสิกรไทย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการให้บริการด้วยระบบดิจิทัล พร้อมนำเทคนิคใหม่มาพัฒนาการให้บริการภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน

กรมพัฒน์ฯ เยือน กสิกรไทย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการให้บริการด้วยระบบดิจิทัล พร้อมนำเทคนิคใหม่มาพัฒนาการให้บริการภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน

0
กรมพัฒน์ฯ เยือน กสิกรไทย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการให้บริการด้วยระบบดิจิทัล พร้อมนำเทคนิคใหม่มาพัฒนาการให้บริการภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน

กรมพัฒน์ฯ เยือน ธ.กสิกรไทย แลกเปลี่ยนความเห็นและศึกษาความก้าวหน้าด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การให้บริการด้วยระบบดิจิทัล และการพัฒนาบุคลากรสู่ยุค Digital Transformation พร้อมนำเทคนิคใหม่ๆ จากภาคธุรกิจมาปรับใช้และพัฒนาการให้บริการภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกภาคธุรกิจและประชาชน มั่นใจ..การแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างกันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ย้ำ!!! ชั่วโมงนี้…การหันหน้าปรึกษาหารือและร่วมมือกันพัฒนาประเทศเป็นสิ่งจำเป็นมากที่สุด

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดมิติใหม่การบริหารราชการแผ่นดิน การบริหารจัดการองค์กร การพัฒนาการให้บริการภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ/ประชาชน และการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย โดยการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารหน่วยงานชั้นนำระดับประเทศทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ ขณะเดียวกัน ได้ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการชุมชนในแต่ละจังหวัดเพื่อทราบความต้องการความช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยจะนำความเห็นที่ได้รับมาบูรณาการเข้าด้วยกัน ก่อนจัดทำเป็นแผนการพัฒนาองค์กรและธุรกิจให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ”

“ล่าสุด ได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายพิพิธ อเนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง โดยมีการหารือทั้งในระดับบริหารและระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเพื่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมชัดเจนแบบคู่ขนาน ทั้งระดับบนลงล่างและล่างขึ้นบน ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างนวัตกรรมการให้บริการด้วยระบบดิจิทัล และการพัฒนาบุคลากรสู่ยุค Digital Transformation ซึ่งระบบการบริหารจัดการข้อมูล (Data) นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ภาครัฐและภาคธุรกิจควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะสามารถนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลในการต่อยอดโครงการต่างๆ หรือวางแผนการพัฒนาประเทศได้ในเชิงลึก”

อธิบดีฯ กล่าวต่อว่า “เบื้องต้นทั้ง 2 หน่วยงาน เห็นพ้องกันว่า องค์กรควรต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven) โดยส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์กร (หน่วยงานพันธมิตร) ด้วยความระมัดระวัง จะเป็นการเพิ่มโอกาสและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กรและธุรกิจ รวมทั้งจะต้องมีการผสมผสานระหว่างศักยภาพของบุคลากรเข้ากับความชาญฉลาดของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อวิเคราะห์และนำเสนอการบริการให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแต่ละรายในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ล้วนแล้วแต่มีคลังข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่สามารถนำไปต่อยอดการพัฒนาในทุกๆ ด้าน เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและลูกค้า รวมถึง สามารถบูรณาการฐานข้อมูลเข้าด้วยกันเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและประเทศให้มีความเข้มแข็ง”

“สำหรับด้านการพัฒนาองค์กร ควรต้องสร้างพื้นฐานความรู้ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลให้แก่บุคลากรทุกระดับ โดยเป็นการเพิ่มพูนองค์ความรู้แบบเติมเต็มไม่ใช่การยัดเยียด ซึ่งจะทำให้การเรียนรู้นั้นเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อการปฏิบัติงาน และต้องผลักดันให้เกิดการยอมรับการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับการแก้ไขปัญหาและพัฒนาให้เป็นนวัตกรรมที่ดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและความคิดให้บุคลากรมีความ ‘กล้าคิดและกล้าลงมือทำในสิ่งใหม่’ ต้องเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง พร้อมส่งต่อความคิดนั้นไปสู่เพื่อนร่วมงานและพันธมิตรที่เกี่ยวข้องต่อยอดให้เกิดแนวทางการพัฒนาใหม่ๆ โดยธนาคารกสิกรไทยฯ พร้อมให้การสนับสนุนกรมฯ ในการสร้างองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ ผ่านพื้นที่การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล ‘Digital Academy’ ของธนาคารฯ ขณะเดียวกัน ก็พร้อมให้ความร่วมมือทุกด้านกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบองค์รวมระดับประเทศ”

“กรมฯ และ ธนาคารกสิกรไทยฯ จะบูรณาการความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีระหว่างกันอย่างใกล้ชิด โดยกรมฯ จะนำความก้าวหน้าและนวัตกรรมด้านต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติราชการของกรมฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ภาคธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง”

“ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงเดินหน้าพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการชุมชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดการพัฒนา เป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศให้เดินไปข้างหน้าด้วยความเข้มแข็ง มั่นใจ…ชั่วโมงนี้ การพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนมุมมอง และรับฟังข้อเสนอแนะระหว่างกันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ทั้งนี้ ภาคธุรกิจคาดหวังให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณของภาครัฐเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยภาคธุรกิจจะเป็นพันธมิตรที่เดินเคียงข้างไปด้วยกัน พร้อมร่วมแรงร่วมใจร่วมพลังช่วยกันผลักดันให้ประเทศไทยมีความมั่นคงและยั่งยืน” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย