Infor คาดการณ์ 10 แนวโน้มแห่งอนาคตของอุตสาหกรรมการกระจายสินค้าในทศวรรษหน้า

บทความโดย เทอร์รี สมา, รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น, บริษัทอินฟอร์

อุตสาหกรรมการกระจายสินค้ามีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงผู้ผลิตและผู้บริโภคเข้าด้วยกันในตลาดโลกที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว  ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวล้ำหน้าไปอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ภาพรวมของ
การกระจายสินค้าก็กำลังเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทศวรรษหน้า  สำหรับแนวโน้มและ
การคาดการณ์ที่คาดว่าจะกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมการกระจายสินค้า พร้อมกับช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวนำหน้าและประสบความสำเร็จในตลาดที่มีพลวัตในอนาคต 10 ประการ ได้แก่

1. ระบบอัตโนมัติจะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบห่วงโซ่อุปทานอย่างสิ้นเชิง: การเพิ่มขึ้นของระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดยหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะมีส่วนในการปฏิวัติและปรับโฉมห่วงโซ่อุปทานอย่าง
มีนัยสำคัญ  คลังสินค้าอัจฉริยะพร้อมเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ยานยนต์อัตโนมัติ ระบบการเลือกสินค้าอัตโนมัติชั้นนำ และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ขั้นสูง จะช่วยให้มีการจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสม ซึ่งจะลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างน่าทึ่ง  ดังนั้น การใช้ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันจึงมีความสำคัญสูงสุด เนื่องจากระบบจะทำหน้าที่เป็น
ตัวเชื่อมโยงที่สำคัญในการเชื่อมต่อระบบอัตโนมัติเข้ากับระบบการวางแผนทรัพยากรขององค์กร (ERP) 
ได้อย่างไร้อุปสรรค ช่วยให้การดำเนินงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

2. การใช้บิ๊กดาต้าและการวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อตัดสินใจ: เมื่อมองไปในอนาคต การกระจายสินค้าจะต้องพึ่งพาพลังมหาศาลของบิ๊กดาต้าและการวิเคราะห์ขั้นสูงเป็นอย่างมาก เพราะจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบของกระบวนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์  ธุรกิจที่มองการณ์ไกลจะใช้อัลกอริธึมการคาดการณ์และ
การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูงในการตัดสินใจแบบใช้ข้อมูลอย่างรอบคอบ เพื่อจัดการกับระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม รวมทั้งใช้คาดการณ์รูปแบบความต้องการได้อย่างแม่นยำ และมอบประสบการณ์เฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละราย  ดังนั้น เพื่อให้สามารถใช้เครื่องมือด้านข้อมูลอันล้ำค่าเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ ผู้จัดจำหน่ายควรย้ายระบบ ERP ของตนไปยังระบบคลาวด์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถนำศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของการวิเคราะห์ขั้นสูงและบิ๊กดาต้ามาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การปรับเปลี่ยนการจัดส่งระยะสุดท้าย (Last-mile delivery):Last-mile delivery กำลังเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการบุกเบิกรูปแบบการจัดส่งที่ล้ำสมัยเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง  เทคโนโลยีล้ำสมัยที่นำมาใช้งาน เช่น โดรน ยานยนต์อัตโนมัติ และหุ่นยนต์ส่งสินค้า กำลังกลายเป็นเรื่องปกติที่ปฏิวัติขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการจัดส่งด้วยความเร็วที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ให้ความคุ้มค่าคุ้มทุนเป็นเลิศ และความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้ เพราะผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะถูกนำส่งอย่างรวดเร็วถึงประตูบ้านของผู้บริโภค  นอกจากนี้ เครือข่ายการจัดส่งแบบ crowd-sourced ซึ่งเป็นการรวมตัวกันทำงานของคนจำนวนมาก และแบบแลกเปลี่ยนเครือข่ายการจัดส่งร่วมกันที่เพิ่มขึ้นจะทำให้การจัดส่ง Last-mile มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น เป็นพลังที่โดดเด่นในการ กระจายสินค้า

4. แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: เพื่อตอบสนองต่อความกังวลและความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การผสานแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจละเลย  ธุรกิจที่มองการณ์ไกลมีการนำแนวคิดริเริ่มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในเชิงรุก เช่น บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในกองยาน และการปรับปรุงเส้นทางโลจิสติกส์ให้เหมาะสมเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก  ดังนั้น บริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนจะสามารถแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและตอบสนองต่อกลุ่มตลาด ที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และแนวปฏิบัติในการกระจายสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่กำลังเพิ่มขึ้นได้

5. ช่องทางการจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภค (Direct-to-Consumer: D2C) จะเพิ่มขึ้น: การขายแบบ D2C มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง และไม่ต้องผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิม  ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้ผู้ผลิตสามารถใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างการเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้บริโภคได้อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมประสบการณ์ส่วนบุคคล สร้างพลังให้กับกลยุทธ์การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และทำให้ผู้ผลิตสามารถควบคุมการส่งข้อความของแบรนด์ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค และความภักดีของลูกค้าได้มากขึ้น

6. บล็อกเชนจะปฏิวัติการตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใส:ศักยภาพในการปฏิวัติวงการของเทคโนโลยีบล็อกเชนภายในขอบเขตการจัดการห่วงโซ่อุปทานจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง พร้อมให้ความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใสอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้  ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger systems) ที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ช่วยให้สามารถติดตามและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้แบบเรียลไทม์ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง  เทคโนโลยีบล็อกเชนจะช่วยเพิ่มความไว้วางใจและความรับผิดชอบภายในห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมาก สามารถป้องกันการปลอมแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดอัตราการฉ้อโกงลงได้อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับรับประกันความถูกต้องของสินค้า

7. ประสบการณ์ Hyper-Personalization และเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง: ภาพรวมของการกระจายสินค้าในอนาคตจะมีลักษณะที่เน้นการสร้างประสบการณ์ลูกค้าเป็นสำคัญ โดยใช้ Hyper-Personalization ที่มีพลังมหาศาลในการขับเคลื่อน  ธุรกิจที่ใช้การวิเคราะห์ขั้นสูง แมชชีนเลิร์นนิง และ AI จะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความชอบส่วนบุคคล ซึ่งจะช่วยให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน พร้อมข้อเสนอตามความต้องการเฉพาะบุคคลและประสบการณ์ที่น่าจดจำ ซึ่งจะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและความภักดีต่อแบรนด์ที่ไม่มีใครเทียบได้


8. เทคโนโลยีโลกเสมือน Augmented Reality (AR) ที่จะเพิ่มประสบการณ์การรับชมผลิตภัณฑ์: AR เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับการมองเห็นผลิตภัณฑ์แบบเสมือนจริง ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อกระบวนการตัดสินใจของผู้บริโภค  จากการที่อุปกรณ์รองรับ AR เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถลองใช้ผลิตภัณฑ์เสมือนก่อนตัดสินใจซื้อได้ เป็นการปฏิวัติประสบการณ์ในการชอปปิงออนไลน์ โดยลดระยะห่างระหว่างโลกกายภาพและโลกดิจิทัลให้เชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมศักยภาพให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจและความพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

9. การพิมพ์ มิติช่วยให้การผลิตแบบกระจายศูนย์เป็นไปได้: การถือกำเนิดของเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการผลิตและการกระจายสินค้าแบบดั้งเดิมโดยนำเสนอข้อดีมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในการผลิตสินค้าในท้องถิ่น การผลิตตามความต้องการอย่างแม่นยำและการลดของเสียลงได้อย่างมาก ทำให้เกิดการสร้างเครือข่ายการผลิตแบบกระจายศูนย์เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ลดระยะเวลาในการผลิตสินค้าลงได้อย่างมาก และช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการและความชอบของผู้บริโภคแต่ละรายได้อย่างตรงจุด ซึ่งปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตและการกระจายสินค้าให้เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพได้อย่างแท้จริง

10. การผสานรวมความร่วมมือและระบบนิเวศ: ในขณะที่ภาพรวมของการกระจายสินค้ากำลังพัฒนา เราจะได้เห็นการทำงานร่วมกันอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นและการผสานรวมระบบนิเวศที่ไร้ขีดจำกัดได้อย่างเด่นชัด  ธุรกิจที่มองการณ์ไกลต่างตระหนักถึงคุณประโยชน์อันมหาศาลของการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ การมีส่วนร่วมในการริเริ่มแบ่งปันข้อมูล และการส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในด้านที่สำคัญ ๆ เช่น โลจิสติกส์ การจัดการสินค้าคงคลัง และการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานแบบครบวงจรเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถขับเคลื่อนให้ธุรกิจนำสินค้าออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ตลอดจนมีความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และมีความเป็นเลิศในการดำเนินงานที่ไม่มีใครเทียบได้

อนาคตของอุตสาหกรรมการกระจายสินค้าจะก้าวหน้าอย่างน่าทึ่งและจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายที่จะพลิกโฉมวงการอย่างแน่นอน  คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ชุดเครื่องมือและซอฟต์แวร์ที่ใช้แข็งแกร่งพอที่จะรองรับเครื่องมือใหม่ ๆ เหล่านี้ได้  และสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจคงความสามารถในการแข่งขันได้คือ จะต้องมีการใช้ระบบอัตโนมัติ ใช้บิ๊กดาต้าและการวิเคราะห์ พร้อมทั้งใช้แนวทางปฏิบัติที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอุบัติใหม่ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เพราะการเปิดใจยอมรับเทรนด์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้จัดจำหน่ายขายส่งสามารถปลดล็อกเพื่อเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ตลอดจนส่งมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยมได้ในทศวรรษหน้าและต่อไปในอนาคต 

สำหรับประเทศไทย ภาคโลจิสติกส์เป็นอุตสาหกรรมกำลังพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็วที่ขับเคลื่อนด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีอุบัติใหม่มาใช้งาน  ดัชนีประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ (LPI) ที่จัดทำโดยธนาคารโลกประจำปี 2566 ได้จัดให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 34 จาก 139 ประเทศทั่วโลกและอยู่ในอันดับที่ 3 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ Symposium 2023 ภายใต้แนวคิด “Sustainable Logistics : Smart and Green” ที่เกี่ยวกับเทรนด์ธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อความยั่งยืน โดยมีธุรกิจกว่า 415 แบรนด์จาก 25 ประเทศเข้าร่วมงาน

โดยข้อมูลสำคัญที่ได้จากการประชุมพบว่า ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (LSPs) จำเป็นต้องปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น ลงทุนในแพลตฟอร์มขั้นสูง และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อเสริมการเชื่อมต่อกับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  ขณะนี้อุตสาหกรรมต่าง ๆ กำลังเผชิญมาตรการทางการค้าที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพยุโรป (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ซึ่งเป็นการเก็บภาษีเพิ่มสำหรับสินค้านำเข้าที่ไม่มีการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้ามาในสหภาพยุโรป ที่ได้ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป  

ในช่วงแรก CBAM จะบังคับใช้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ 6 ประเภทที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมากในกระบวนการผลิต ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นและอาจกระทบกับผู้ผลิตวัตถุดิบที่ส่งสินค้าไปจำหน่ายในยุโรป เพราะอาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดหากไม่สามารถปรับตัวได้ และในอนาคตอันใกล้นี้ CBAM จะขยายครอบคลุมสินค้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีก  ดังนั้น ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ รวมถึงผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าในประเทศไทยจะต้องเริ่มปรับปรุงกระบวนการทำงาน ปรับเปลี่ยนวิธีการส่งสินค้าที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสร้างความต่างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีการค้าระหว่างประเทศต่อไป

###

ปิดฉากอย่างสวยงาม “การแข่งขันกอล์ฟ มายโอโซนกอล์ฟคลับเขาใหญ่ครั้งที่๑๗”  

ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีรายได้สมทบทุนถวายเป็นพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย  จัดโดยสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ในวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ณ สนามกอล์ฟ นุศา มาย โอโซน กอล์ฟ คลับ เขาใหญ่ 

คอตโต้ อัดนวัตกรรมใส่กระเบื้องยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ถึง 90%การันตีด้วยมาตรฐานจากสถาบันชั้นนำระดับโลก ตอบรับกระแสเทรนด์คนรักสุขภาพตามแนวชีวิตวิถีใหม่

กระเบื้องคอตโต้ (COTTO) ผู้นำเทรนด์ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มาพร้อมโซลูชั่น ภายใต้ SCG Decor พร้อมรุกตลาดกระเบื้องเพื่อคุณภาพชีวิต พร้อมส่งกระเบื้องยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ( Hygienic Tile : Antivirus & Antibacterial )...

ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเปิดเกมส์รุกทีมตลาดOnlineปี2567

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ให้ข่าวว่า ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเปิดเกมส์รุกทีมตลาดOnline จัดประชุมทีมงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมน้องสุขใจ ททท.สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยทีมงาน ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก

บมจ. เออาร์ไอพี และ ม.หอการค้าไทยมอบรางวัล THAILAND TOP SME AWARDS 2023เชิดชูเอสเอ็มอีที่มีการดำเนินธุรกิจดีเยี่ยม

นิตยสาร BUSINESS+ โดยบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยความร่วมมือของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) จัดงานมอบรางวัล “THAILAND TOP SME AWARDS 2023” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่...

รู้จักประเภทของรถ EV ช้อปดอกไม้ถ่ายรูปพิกัดฮอต ภาคต่อปฏิบัติการกำจัดวายร้ายวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน นี้ทาง ช่อง3

รายการ Digital Thailand พาทุกคนทำความรู้จักประเภทของรถ EV หรือยานยนต์ไฟฟ้า เพราะคนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เพราะเห็นได้เยอะบนถนน แต่รู้ไหมว่ารถสาธารณะที่เราเห็นๆกัน บางส่วนก็เป็นรถ EV แล้วนะ แล้วนอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายประเภท สัปดาห์นี้ ดร.เอิ้น ปานระพี จึงจะชวนทุกคนไปพูดคุยกับ...