ทลายกำแพงการทำงานต่างคนต่างทำ นำ ศธ.ก้าวสู่ระบบราชการ 4.0
เสาร์ 4 มิถุนายน 2565, โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ จังหวัดนนทบุรี / คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการของกระทรวงศึกษาธิการ โดยกลุ่มสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live “ศธ.360 องศา”
รมช.ศธ. กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทย ตลอดจนทุกประเทศได้รับผลกระทบจากโลกแห่งความผันผวน (VUCA World) ซึ่งเป็นยุคที่โลกต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ทั้งการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด ส่งผลต่อภาคธุรกิจใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาทดแทนกำลังคน ขณะที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 ที่สร้างความปกติวิถีใหม่ (New Normal) ทำให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน รวมทั้งระบบการศึกษาอย่างรวดเร็วในหลากหลายมิติ
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความผันผวนสำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่มีแนวโน้มเป็นสังคมสูงวัย จำนวนประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานลดลงอย่างต่อเนื่อง ความผันผวนเหล่านี้ส่งผลให้ประเทศไทยจำเป็นต้องยกระดับทักษะกำลังคนให้สามารถทำงานอย่างมีผลิตภาพสูง และสร้างโอกาสในการเข้าถึงอาชีพรูปแบบใหม่ให้กับกำลังคนที่ได้รับผลกระทบ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยกระดับการศึกษาและปรับเปลี่ยนกำลังคนให้มีทักษะและสมรรถนะที่จำเป็น สามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตในสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงมีภารกิจสำคัญในการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อให้สามารถจัดการศึกษาเห็นผลเป็นรูปธรรม และขับเคลื่อนนโยบายสำคัญสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กไทยในโลกแห่งดิจิทัล ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์จำเป็นต้องเรียนรู้โค้ดดิ้ง (Coding) เพื่อสามารถแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (STI) นำมาปรับใช้ในชีวิตและทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเรียนการสอนสะเต็มศึกษา (STEAM) เป็นการพัฒนาต่อยอดจาก STEM ที่เพิ่มสาระศิลปวัฒนธรรมการใช้ชีวิต (Art) ซึ่งเป็นองค์ความรู้สำคัญในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น และที่สำคัญที่สุดต้องปรับเปลี่ยนบทบาทของครู จากผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ยกระดับคุณภาพทางการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ เน้นให้ผู้เรียนคิดอย่างมีระบบ เปลี่ยนวิธีการประเมินเป็นการได้เรียนรู้จากชีวิตจริง
ทราบว่าการประชุมฯ ในช่วงเช้า ได้มีการระดมความคิดเห็น นำไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเป็นแผนที่นำทางที่พวกเราทุกคนจะได้นำไปใช้ ไปปฏิบัติ ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาระบบงานของ ศธ.ในทุกมิติ ทำให้เห็นภาพความสวยงามในขณะนี้ คือการบูรณาการความร่วมมือการทำงานของทุกส่วนราชการใน ศธ. อย่างเป็นรูปธรรม ทลายกำแพงที่ต่างคนต่างทำงาน ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่พวกเราจะหล่อหลอม ให้เกิดวัฒนธรรมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาว ศธ. นับตั้งแต่จากนี้ไป
เป็นที่น่าชื่นชม ที่ทุกท่านได้นำความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญ มาช่วยกันคิด เพื่อที่จะหาแนวทางพัฒนาระบบงานให้สามารถดำเนินงานตามพันธกิจ บรรลุผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โดยมีผู้เรียนเป็นเป้าหมายหลักแห่งการพัฒนา ให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยมีคุณธรรม มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะอาชีพและมีทักษะการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตตามความเหมาะสมของพหุปัญญา(ปัญญาที่แสดงถึงความสามารถของมนุษย์ที่จะค้นหาปัญหาและหาแนวทางแก้ไข รวมไปถึงการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองและรับใช้สังคมของตน) ตลอดจนสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ให้คนทำงาน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง (ครู นักเรียน ผู้ปกครอง) มีความสุข
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ได้ดำเนินงานสำเร็จตามเป้าหมาย สามารถจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการของ ศธ. ปี พ.ศ. 2565 – 2570 ซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2565 เพื่อเป็นกรอบทิศทางการดำเนินงาน ให้ส่วนราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคนำไปใช้ในการพัฒนากระบวนการทำงานไปสู่ระบบราชการ 4.0 และหากมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานประการใด ขอแจ้งให้ทราบด้วย
ดิฉันพร้อมจะรับฟังข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อนำไปพัฒนาการทำงานในภาพรวมของ ศธ. ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ และปฏิรูประบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับความหลากหลายของการจัดการศึกษาและตอบโจทย์การพัฒนาของโลกอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน มีทักษะที่จำเป็นของโลกอนาคต สามารถแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิผล มีวินัย มีนิสัยใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
ที่สำคัญต้องเป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าที่ มีความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย โดยมีขอบเขตครอบคลุมทั้งการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พัฒนาการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในโลกศตวรรษที่ 21” รมช.ศธ.กล่าว
สำหรับงานในช่วงเช้ามีกิจกรรมกลุ่มนำไปสู่การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการของกระทรวงศึกษาธิการ โดยนายสมภพ อุณหชาติ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร สป.ศธ. กล่าวต้อนรับนำเข้าสู่กิจกรรมฯ
ภายหลังพิธีเปิด มีการบรรยายพิเศษเรื่อง “การพัฒนาระบบราชการสู่ความเป็นเลิศ” โดยได้รับเกียรติจากนางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เป็นวิทยากรบรรยาย ตลอดจนจัดเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางการพัฒนาระบบราชการของกระทรวงศึกษาธิการ” โดยนายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ., นายอรรถพล สังขวาสี เลขาธิการ สกศ., นายยศพล เวณุโกเศศ รองเลขาธิการ กอศ., นายบุญเลิศ ค่อนสอาด ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา สพฐ. และนายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้ช่วยปลัด ศธ. กล่าวสรุป ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์อัมพร ธำรงลักษณ์ กีรตยาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา