- อาลีบาบา กรุ๊ป เปิดให้ใช้งานสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีประหยัดพลังงานเก้าฉบับโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นครั้งแรก
- อาลีบาบา คลาวด์ ตั้งเป้าขับเคลื่อนให้ดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมดทั่วโลกของบริษัทฯ ทำงานด้วยพลังงานสะอาดภายในปี 2573
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 25 เมษายน 2022 อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (NYSE: BABA และ HKEX: 9988, “อาลีบาบา” หรือ “อาลีบาบา กรุ๊ป”) เข้าร่วมกลุ่ม Low Carbon Patent Pledge (LCPP) ซึ่งเป็นเวทีระหว่างประเทศที่ส่งเสริมการแบ่งปันสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีที่ใช้คาร์บอนต่ำ
ต่าง ๆ เพื่อเร่งให้เกิดการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ และสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน ด้วยการให้บุคคลภายนอกสามารถใช้สิทธิบัตรสำคัญด้านเทคโนโลยีดาต้าเซ็นเตอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ จำนวนเก้าฉบับได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเพื่อให้สอดคล้องกับการสนับสนุนความคิดริเริ่มการดำเนินการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมดังกล่าว อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ยังตั้งเป้าหมายให้ดาต้าเซ็นเตอร์ของอาลีบาบา คลาวด์ ทั่วโลก ทำงานด้วยการใช้พลังงานสะอาดภายในปี 2573 โดยเริ่มด้วยการอัปเกรดไฮเปอร์-สเกลดาต้าเซ็นเตอร์ห้าแห่งในประเทศจีน
การเข้าร่วมกลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่อาลีบาบา กรุ๊ป เปิดให้มีการใช้งานทรัพย์สินทางปัญญาที่สำคัญของบริษัทฯ อย่างกว้างขวาง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีมาอย่างยาวนานของบริษัทฯ ที่ต้องการบรรลุถึงอนาคตของสังคมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการหล่อหลอมความร่วมมือในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น สิทธิบัตรทั้งเก้าฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีด้านดาต้าเซ็นเตอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green data center) ของอาลีบาบา เช่น ระบบระบายความร้อนแบบ “Soaking Server” ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งอาลีบาบา คลาวด์ได้ใช้กับดาต้าเซ็นเตอร์ของบริษัทฯ ตั้งแต่ปี 2558 และพบว่าระบบระบายความร้อนที่ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้านี้ ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า 70% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบเดิมที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า
ดร. เฉิน หลง รองประธาน อาลีบาบา กรุ๊ป และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนความยั่งยืนของอาลีบาบา กล่าวว่า “เราเชื่อว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีคือกุญแจสำคัญในการพัฒนาไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Circular Economy) ในอนาคต ในฐานะผู้บุกเบิกและผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือสังคมด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเสริมศักยภาพให้แก่กลุ่มทางสังคมในขอบเขตที่กว้างขวางมากขึ้น และสร้างคุณค่าในระยะยาว เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มความร่วมมือดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนทุกกลุ่ม ทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการทำงานร่วมกันอย่างเปิดกว้าง การสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน และการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กันและกัน”
Low Carbon Pledge Patent จัดตั้งขึ้นเมื่อวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ในปี 2564 โดย Hewlett Packard Enterprise (HPE), Microsoft และ Meta มีภารกิจเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำต่าง ๆ และส่งเสริมการทำงานด้านนวัตกรรมร่วมกัน ศาสตราจารย์ จอร์จ คอนทรีราส ผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการเกี่ยวกับการให้คำปฏิญาณสิทธิบัตร กล่าวว่า “การที่บริษัทต่าง ๆ เข้าร่วมกลุ่ม เป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Low Carbon Patent Pledge และสะท้อนความจริงที่ว่าอุตสาหกรรมทุกภาคส่วน สามารถให้การสนับสนุนความพยายามในการเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำให้ได้เร็วขึ้น”
ใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนดาต้าเซ็นเตอร์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อาลีบาบา คลาวด์ ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการดำเนินงานของดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกให้ใช้พลังงานสะอาดทั้งหมดภายในปี 2573 ด้วยการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพล้ำหน้ามาใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์เหล่านี้
ซานหยวน เกา ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายอินเทอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์ของอาลีบาบา คลาวด์ อินฟราสตรัคเจอร์ กล่าวว่า “ดาต้าเซ็นเตอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญมากต่อการดำเนินงานที่ยั่งยืนของอาลีบาบา เราใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ทันสมัยกับไฮเปอร์-สเกลดาต้าเซ็นเตอร์ เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และการจัดเก็บไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมากเลยทีเดียว เช่น เราได้วางเครื่องเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากในดาต้าเซ็นเตอร์ของเราที่เมืองหางโจว ไว้ในน้ำยาหล่อเย็นชนิดพิเศษ ซึ่งทำให้อุปกรณ์ไอทีเย็นลงได้อย่างรวดเร็ว”
ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มณฑลจางเป่ยของอาลีบาบา คลาวด์ ใช้วิธีการเดียวกันนี้ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ได้รับใบรับรองการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Power Consumption Certificate) จากศูนย์แลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าแห่งกรุงปักกิ่ง (Beijing Electric Power Exchange Center) เมื่อปี 2564 ทั้งนี้ดาต้าเซ็นเตอร์ดังกล่าวนับเป็นดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกของประเทศจีนที่มีการใช้เทคโนโลยีฮีทปั๊ม (Heat Pump) การที่อาลีบาบา คลาวด์ สร้างเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่ยืดหยุ่นและปลอดภัยมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ เชื่อว่าเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำภายในดาต้าเซ็นเตอร์จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ โดยจะมีการส่งเสริมการใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวอย่างกว้างขวางในประเทศจีนและประเทศอื่น ๆ ในอนาคต
แม้ว่าพลังงานสะอาดช่วยแก้ไขปัญหามากมาย แต่การใช้พลังงานดังกล่าวก็ก่อให้เกิดความท้าทายบางประการเช่นกัน เพราะพลังงานจากแสงอาทิตย์และลมมีความผันผวน ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เช่น ในวันที่อากาศแจ่มใส มีลมแรง จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลัง แต่ถ้าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ก็จะไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ เพื่อแก้ไขความท้าทายดังกล่าว อาลีบาบา คลาวด์ กำลังทดลองใช้งานเครื่องมือสำหรับการจัดการคาร์บอน เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากการซื้อ-ขายพลังงานได้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการวางแผนจัดหาพลังงานที่มีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ อาลีบาบา คลาวด์ กำลังสำรวจเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น การสูบน้ำเพื่อกักเก็บพลังงาน (pumping water to store energy) ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันโดยทั่วไปเพื่อกักเก็บพลังงานสะอาดไว้ใช้ยามจำเป็น
อาลีบาบาได้เปิดตัวชิปรุ่นแรกที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ Yitian 710 ชิป Yitian 710 สามารถรองรับทรานซิสเตอร์สูงสุด 60 พันล้านตัวในชิปแต่ละอัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นอื่น ๆ ชิปดังกล่าวจะช่วยให้สามารถเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดได้ง่ายขึ้น เพราะลดความต้องการในการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์และลมซึ่งไม่อาจคาดเดาได้
###
About Alibaba Group
Alibaba Group’s mission is to make it easy to do business anywhere. The company aims to build the future infrastructure of commerce. It envisions that its customers will meet, work and live at Alibaba, and that it will be a good company that lasts for 102 years.
เกี่ยวกับ Alibaba Cloud
อาลีบาบา คลาวด์ (www.alibabacloud.com) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2552 เป็นธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ให้บริการคลาวด์แบบครบวงจรกับลูกค้าทั่วโลก รวมถึงการให้บริการ การประมวลผลแบบยืดหยุ่น ดาต้าเบส สตอเรจ บริการเน็ตเวิร์กเวอร์ชวลไลเซชัน การประมวลผลขนาดใหญ่ การรักษาความปลอดภัย บริการด้านการบริหารจัดการและแอปพลิเคชัน การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ แพลตฟอร์มแมชชีนเลิร์นนิ่ง และบริการ IoT ข้อมูลของ IDC ระบุว่า อาลีบาบา คลาวด์ เป็นผู้ให้บริการพับลิคคลาวด์ชั้นนำของประเทศจีน โดยพิจารณาจากรายรับในปี 2019 รวมถึงให้บริการ PaaS และ IaaS
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คลอเดีย จูอาลีบาบา คลาวด์+86 571 86561860Claudia.ju@alibaba-inc.com | นภา สุทธิญาณโสภณบริษัท เอฟเอคิว จำกัด+66 81 8672241napa@pc-a.co.th |