Home Product สธ. ร่วมกับ อาร์เอ็กลีฟ เวิลด์ เมดิกา (Rx Leaf World Medica) ตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ ระดมผู้เชี่ยวชาญวิจัยสายพันธุ์ ปลูก สกัด ผลิตยาระดับ World Class

สธ. ร่วมกับ อาร์เอ็กลีฟ เวิลด์ เมดิกา (Rx Leaf World Medica) ตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ ระดมผู้เชี่ยวชาญวิจัยสายพันธุ์ ปลูก สกัด ผลิตยาระดับ World Class

0
สธ. ร่วมกับ อาร์เอ็กลีฟ เวิลด์ เมดิกา (Rx Leaf World Medica) ตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ ระดมผู้เชี่ยวชาญวิจัยสายพันธุ์ ปลูก สกัด ผลิตยาระดับ World Class

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานลงนามความร่วมมือจัดตั้งศูนย์วิจัยกั ญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ ระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศร่วมวิจัยสายพันธุ์และเพาะปลูกพืชกัญชา พัฒนาสารสกัดและสูตรทางการแพทย์ วิจัยทางคลินิกเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วย เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับโลกและฐานการผลิตยาจากกัญชาระดับ World Class

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์
นงลักษณ์ โกวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอ็กลีฟ เวิลด์ เมดิกา จำกัด


วันนี้ (10 พฤศจิกายน 2564) ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพมหานคร (รางน้ำ) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมผู้เชี่ยวชาญกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศและพิธีลงนามความร่วมมือการจัดตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ ระหว่าง นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และนางนงลักษณ์ โกวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอ็กลีฟ เวิลด์ เมดิกา จำกัด โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาทางการแพทย์จากต่างประเทศเข้าร่วม
นายอนุทินกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ให้เกิดเป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย ทั้งการคัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม ส่งเสริมการปลูก เก็บเกี่ยว การสกัดสารสำคัญมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางการแพทย์ โดยผลักดัน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ทำให้นำสารสกัดกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และศึกษาวิจัยได้ ซึ่งมีหลักฐานทางวิชาการชัดเจนว่ามีประโยชน์ในการรักษา เช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดแล้วเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน, โรคลมชักในเด็กที่รักษายากหรือลมชักที่ดื้อต่อการรักษา, ผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง, ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเส้นประสาทที่รักษาด้วยวิธีการต่างๆ แล้วไม่ได้ผล และบรรเทาอาการปวด ช่วยให้ผู้ป่วยที่ดูแลแบบประคับประคองหรือระยะสุดท้ายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังใช้เป็นส่วนประกอบในตัวยาแพทย์แผนไทย และยาแก้นอนไม่หลับ

สำหรับปีงบประมาณ 2565 กระทรวงสาธารณสุขยังเน้นนโยบายส่งเสริมพัฒนาสมุนไพร กัญชา กัญชง กระท่อม และภูมิปัญญาไทย ซึ่งกรมการแพทย์มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานพัฒนาพืชสมุนไพร กัญชา ให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ รายได้ และผู้ป่วยได้เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท อาร์เอ็กซ์ ลีฟ เวิลด์ เมดิกา จำกัด ในการจัดตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการวิจัยทางพันธุศาสตร์ของพืชกัญชาทางการแพทย์ พัฒนาสูตรสารสกัด ผลิตยาคุณภาพสูงที่เกิดจากการผสมผสานของกัญชากับพืชสมุนไพรไทย วิจัยทางคลินิกเพื่อการเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ของผู้ป่วยและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน แสดงให้เห็นศักยภาพของประเทศไทย ที่พร้อมเป็นแหล่งความรู้ด้านการวิจัย เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับโลก มีการใช้กัญชาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตและพัฒนายาสมุนไพรจากกัญชาระดับ World class ในอนาคต


นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับบริษัทอาร์เอ็กซ์ ลีฟฯ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายสารสกัดจากพืชเกษตรทางการแพทย์ และสารสกัดจากพืชอื่นๆ ที่ใช้ทางการแพทย์และไม่ได้ใช้ทางการแพทย์ ทั้งในประเทศไทย เอเชีย และประเทศอื่นๆ โดยศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศจะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เช่น แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ เภสัชกร ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชา ร่วมกันทำงานในรูปคณะกรรมการ 3 คณะ คือ 1.คณะกรรมการอำนวยการศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ กรมการแพทย์ 2.คณะกรรมการอำนวยการศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ และ 3.คณะกรรมการทางการแพทย์ศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ เพื่อวิจัยสายพันธุ์และการเพาะปลูกพืชกัญชา สารสกัดกัญชาและสูตรทางการแพทย์ การวิจัยทางคลินิกและการเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ของผู้ป่วย จัดตั้งศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับโลกระหว่างสถาบันวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ในประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และไทย กำหนดระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี และจะมีการทำบันทึกข้อตกลงย่อยเป็นรายกรณี เพื่อกำหนดสัดส่วนของผู้มีส่วนร่วมในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้น

สำหรับ บริษัท อาร์เอ็กลีฟ เวิลด์ เมดิกา เป็นบริษัทในเครือของ เอมารา เอเชีย (Amara Asia) จำกัด ที่เป็นผู้นำในด้านการปลูกและสกัดกัญชาคุณภาพสูงสำหรับใช้ในทางการแพทย์ มีแปลงปลูกบนพื้นที่ขนาด 67 ไร่ โดยใช้เทคโนโลยีวิธีการแยกสกัดแบบไร้สารตกค้าง Solvent Free ได้ ทำให้ Amara Asia เป็นผู้นำในการผลิตสารตั้งต้นที่ใช้ในทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ