ซมโปะ ประกันภัย เดินหน้าสร้างแบรนด์ในเมืองไทยเพื่อตอกย้ำความตั้งใจภายใต้พันธกิจ ดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่น ท่ามกลางสถานการณ์ความท้าทายของโรคระบาดและสถานการณ์เศรษฐกิจด้วยการมุ่งคิดค้นและพัฒนาทางเลือกของประกันในหลากหลายรูปแบบ ทั้งด้านความปลอดภัย และด้านสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายทางออนไลน์ ร่วมส่งมอบประสบการณ์ผ่านออนไลน์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าคนไทย
ผศ.ชญณา ศิริภิรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SOMPO เปิดเผยว่า บริษัท ซมโปะ ประกันภัยพร้อมเดินหน้าสร้างแบรนด์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องภายใต้พันธกิจดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่นท่ามกลางความท้าทายในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการสร้างแบรนด์บริษัทมุ่งคิดค้นและพัฒนาทางเลือกของประกันในหลากหลายรูปแบบ ทั้งด้านความปลอดภัย และด้านสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
พร้อมด้วยการนำเอานวัตกรรมสมัยใหม่ ทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายทางออนไลน์, การแนะนำ หรือ ให้คำปรึกษาเรื่องกรมธรรม์กับทางลูกค้าผ่านทางออนไลน์ เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยของการทำงานของผู้คนที่ส่วนใหญ่อยู่บนออนไลน์ จึงส่งผลทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ผ่านออนไลน์ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจของการให้บริการที่มาพร้อมกับมาตรฐานระดับสูงของซมโปะ ประกันภัย
ล่าสุดซมโปะ ประกันภัย ได้รับการยกระดับคุณค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น โดยเป็นผลการสำรวจของนีลเส็นได้ทำการสำรวจกลุ่มคนทั่วไปในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ ด้านการประกันภัยทั่วไป (General Insurance), การประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance), การประกันภัยสุขภาพ (Health Insurance) และการสร้างการรับรู้แบรนด์ของซมโปะ ประกันภัย โดยแบรนด์ของซมโปะประกันภัย ได้รับการยกระดับคุณค่าแบรนด์จากเดิม 0.3 เป็น 0.7 โดยสะท้อนจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น ตามมาด้วยเรื่องของการตัดสินใจซื้อและบริการหลังการขายที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ซมโปะ ประกันภัย เป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ทั้งนี้เป้าหมายสำหรับการสร้างแบรนด์ของซมโปะในประเทศไทย จะมุ่งสร้างการรับรู้ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยขยายฐานไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ทั้งลูกค้ารายใหญ่และองค์กร และลูกค้ารายย่อย ผ่านประกันภัยรถยนต์ และ ประกันสุขภาพพร้อมกันนี้บริษัทจะมุ่งรักษาความเป็นผู้นำในตลาดประกันการเดินทาง ที่ซมโปะ มีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำในตลาด โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ขณะที่พัฒนาบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ก็จะช่วยทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ครอบคลุมและตรงกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในทุกกลุ่ม ทั้งรายใหญ่และองค์กร รวมถึงกลุ่มรายย่อย
ผศ.ชญณา กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ธุรกิจประกันภัยในประเทศไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2564 มีแนวโน้มน่าจะยังทรงตัว ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่มีความยืดเยื้อ ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว และกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดรายย่อย ส่วนในตลาดรายใหญ่หรือลูกค้าองค์กร ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของซมโปะเริ่มมีทิศทางดีขึ้นตามการส่งออกตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัว ทำให้เบี้ยประกันภัยของซมโปะยังเติบโตได้ดี
ขณะเดียวกันภาพรวมของผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจเรื่องของความปลอดภัยและสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยตลาดประกันภัยส่วนใหญ่จะมุ่งไปในแนวทางที่คล้าย ๆ กัน คือ Personal safety and health โดยบริษัทก็มีการนำเสนอประกันสุขภาพเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ประกันสุขภาพจะได้รับความสนใจในระดับสูง
ขณะที่เป้าหมายของบริษัทในปีนี้ ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยธุรกิจประกันภัยจะมีการขยายตัวในระดับสูงกว่าภาพรวมของตลาดประกันภัย และสอดคล้องกับขยายตัวของจีดีพีประเทศไทย ภายใต้การวางกลยุทธ์เพื่อเดินหน้าไปถึงเป้าหมายจะประกอบด้วย กลยุทธ์ 5P เริ่มจาก 1.People บุคลากรของ SOMPO ที่มีความรู้ ความพร้อมในการให้ข้อมูลและให้บริการด้วยหัวใจญี่ปุ่น 2.Product สินค้ามีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ 3.Place การมีช่องทางซื้อขายทั่วถึง และมีการขยายแพลตฟอร์มออนไลน์ 4.Price ผลประโยชน์คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย และ 5.Promotion ที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม รวมทั้งการมุ่งสร้าง Brand Royalty ให้แก่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
“ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งที่เราทำมาโดยตลอด คือ การมุ่งมั่น พัฒนา และให้บริการแก่ลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในปีนี้ธุรกิจประกันภัยจะมีการปรับตัวตอบรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่โดยรวม ซมโปะ เรายังมุ่งมั่นที่จะดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่น ตามพันธกิจของเรา พร้อมด้วยคิดค้นและพัฒนาบริการของเราให้ตอบโจทย์คนไทยอย่างครอบคลุม” ผศ.ชญณา กล่าวทิ้งท้าย
###