Home PR. News อธิบดี พช. Kick off โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Cloud Meeting) เตรียมชุมชน แต่งชุมชน เติมการตลาด

อธิบดี พช. Kick off โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Cloud Meeting) เตรียมชุมชน แต่งชุมชน เติมการตลาด

0
อธิบดี พช. Kick off โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Cloud Meeting) เตรียมชุมชน แต่งชุมชน เติมการตลาด

นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธาน ในพิธี Kick off เปิดโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยมี นางสาวกาญจนา ทองเกษม ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานแผนและยุทธศาสตร์ กล่าวรายงาน
นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน มีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคงโดยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาอาชีพ พัฒนาผลิตภัณฑ์ การมีส่วนร่วมของประชาชน ในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และกรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินงานโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว และโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เพื่อส่งเสริมการพัฒนาหมู่บ้านให้ได้ใช้ศักยภาพและมีความพร้อมที่จะรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างครบวงจร ทั้งในเรื่องทักษะ การบริหารจัดการของหมู่บ้านในด้านต่าง ๆ การจัดทำกิจกรรมที่ให้บริการนักท่องเที่ยว การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการชุมชนมีโปรแกรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ใช้อัตลักษณ์ของท้องถิ่น มาสร้างมูลค่าและความคุ้มค่าผ่านการท่องเที่ยวโดยชุมชน มีเป้าหมายในการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกระแสหลักที่เป็นแอ่งใหญ่ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสเสน่ห์ของหมู่บ้านที่เป็นแอ่งเล็ก รวมถึงบูรณาการ การดำเนินงานในรูปแบบประชารัฐและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการชุมชนได้มีทักษะ ความเชี่ยวชาญในการจัดกิจกรรมโปรแกรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย การยกระดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยว เช่น มีการจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวสามารถลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเองตามแนวทาง D-HOPE (Decentralized Hand – On Program Exhibition) เป็นต้น
การดำเนินโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในครั้งนี้ขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อ
1. ให้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี มีองค์ความรู้และทักษะด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน และมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – 19) ในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)
2. เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวโดยชุมชน
3. เพื่อสร้างและพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ OTOP และผู้ที่เกี่ยวข้องในชุมชนท่องเที่ยว ให้มีขีดความสามารถในการคิดเชิงสร้างสรรค์ และสามารถต่อยอดการบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวได้อย่างเหมาะสม
การดำเนินโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กลุ่มเป้าหมาย 20 ชุมชน กรมการพัฒนาชุมชนดำเนินการใน 5 กิจกรรม ดังนี้
1. กิจกรรมที่ 1 เตรียมความพร้อมชุมชน
2. กิจกรรมที่ 2 ตกแต่งชุมชนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยการปรับภูมิทัศน์ของชุมชน ให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวภายหลังสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) คลี่คลาย โดยการดึงอัตลักษณ์จากขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ให้สามารถสื่อสารและส่งเสริมคุณค่าของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. กิจกรรมที่ 3 เติมการตลาดและสื่อสารสร้างการรับรู้สาธารณะ
4. กิจกรรมที่ 4 อบรมออนไลน์เสริมสร้างทักษะและความสามารถของผู้นำชุมชนแถวสอง ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Cloud Meeting)
5. กิจกรรมที่ 5 การติดตามผลการดำเนินงาน โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน เพื่อติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ

ทั้งนี้ ขอให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทุกท่านได้ตระหนักว่า ปัจจัยที่จะส่งผลให้การท่องเที่ยวโดยชุมชน จะประสบความสำเร็จได้นั้น มีอยู่ ๓ ประการสำคัญ
๑. การพัฒนาศักยภาพตนเองให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยต้องมีองค์ความรู้ที่สำคัญและจำเป็น เช่น การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว นโยบายเรื่องเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล รวมถึงแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคและกลุ่มนักท่องเที่ยว
๒. การพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยต้องมีแผนธุรกิจการให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ชัดเจน รวมถึงการสร้างเรื่องราว (Story) จุดดีและจุดเด่น (อัตลักษณ์ของสินค้า) ที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าของเราได้
๓. การแสวงหาช่องทางการตลาดเพิ่มเติม โดยการสร้างเครือข่ายของธุรกิจบนพื้นฐานความร่วมมือและการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงพัฒนาการสื่อสารด้านการตลาดผ่านสื่อสังคม Online เช่น Facebook, Line, Twitter เป็นต้น ซึ่งสามารถเข้าถึงลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำ บนพื้นฐานองค์ความรู้ ภูมิปัญญา และความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค
นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการผพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้าย