ต่อยอดการสร้างงานสร้างอาชีพ พัฒนาสู่ความเข้มแข็ง เสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง
วันที่ 18 สิงหาคม 2564 นางรักใจ กาญจนะวีระ พัฒนาการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย นางสาวริตยา รอดนิ่ม ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นางสาวสุราพร ดวงเนตร พัฒนาการอำเภอบางกรวย ลงพื้นที่ติดตามความสำเร็จของการดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งชัณโรงและแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ณ สวนลัดดาวัลย์ และสวนเรียนรู้สมุนไพรเฉลิมพระเกียรติ ตำบลปลายบาง อำเภอบางกรวยจังหวัดนนทบุรี
ในโอกาสนี้ สถานีโทรทัศน์ MCOT HD 30 ได้ลงพื้นที่เพื่อบันทึกเทปการดำเนินงานและความสำเร็จของการเลี้ยงผึ้งชัณโรง และนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยจะเผยแพร่ออกอากาศในรายการคู่ข่าว เสาร์-อาทิตย์ ในวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 นี้
นางรักใจ กาญจนะวีระ พัฒนาการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19(รอบที่1) ส่งผลให้เศรษฐกิจถูกผลกระทบในภาพรวมทั่วประเทศ รัฐบาลจึงได้มีนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจให้สู่ภาวะปกตื สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนนทบุรี กรมการพัฒนาชุมชน ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและชุมชน เพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งชัณโรงและแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาชุมชนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในชุมชน ผ่านกระบวนการตั้งแต่ “ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ” โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกจำนวน 50 ครัวเรือน เข้าร่วมโครงการโดยเริ่มตั้งแต่การศึกษาดูงานการเลี้ยงผึ้งชัณโรง ไปจนถึงกระบวนการฝึกอาชีพการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผึ้งชัณโรง จากนั้นได้มอบรังผึ้งชัณโรงให้กับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปเลี้ยง และสามารถเก็บผลผลิตเป็นน้ำผึ้ง และไขผึ้ง เพื่อนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆและการหาช่องทางตลาด เชื่อมโยงแหล่งให้เป็นศูนย์เรีบนรู้และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจากการดำเนินโครงการนี้ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน รวมทั้งผู้ที่ว่างงาน ผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่รับาดของโรคติดเชื้อCovid-19 ให้สามารถมีรายได้จากการเลี้ยงผึ้งชัณโรง ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชนที่มุ่งสร้างเสริมกระบวนการเรียนรู้ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน มุ่งให้โอกาสกับประชาชนในการพัฒนาตนเอง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ อันจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความมั่นคงและยั่งยืน
ต่อมา นางลัดดาวัลย์ คำสม เจ้าของสวนลัดดาวัลย์ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงผึ้งชัณโรง ซึ่งผึ้งชัณโรงนั้นจะสามารถอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดสารเคมี โดยผึ้งชัณโรงนั้นมีประโยชน์หลายอย่างทั้งช่วยผสมเกสรของพืชผัก ผลไม้ และต้นไม้ต่าง ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งน้ำผึ้งชัณโรงนั้นมีสรรพคุณทางยามากกว่าน้ำผึ้งจากผึ้งชนิดอื่น และมีการนำน้ำผึ้งใช้เป็นองค์ประกอบของยาสมุนไพร โดยในวันนี้ได้สาธิตการทำยาลูกกลอนฟ้าทะลายโจร โดยมีน้ำผึ้งชัณโรงเป็นส่วนผสม
จากนั้น ได้เดินทางไปยังสวนเรียนรู้สมุนไพรเฉลิมพระเกียรติ ตำบลปลายบาง อำเภอบางกรวย นายสมเกียรติ สุขแป้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลปลายบาง อำเภอบางกรวย กล่าวว่า ขอขอบคุณสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนนทบุรี กรมการพัฒนาชุมชน ที่ได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น โดยปัจจุบันได้มีการนำผึ้งชัณโรงไปเลี้ยงไว้ตามสวนผัก สวนผลไม้ และสวนสมุนไพร ซึ่งจะทำให้ได้รสชาติของน้ำผึ้งมีความแตกต่างกัน เช่น เลี้ยงผึ้งในสวนส้มโอ สวนมะนาว น้ำผึ้งที่ได้จะมีรสชาติอมเปรี้ยว เป็นต้น และที่สวนสมุนไพรแห่งนี้ ก็ได้มีการวางรังผึ้งชัณโรงไว้รอบพื้นที่ เพื่อให้ผึ้งช่วยผสมเกสรเพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับสวนสมุนไพรแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติให้กับคนในชุมชน ประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจได้มาเรียนรู้เรื่องผึ้งชัณโรงและพืชสมุนไพร ซึ่งภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้มีพืชสมุนไพรมากมายกว่า 300 ร้อยชนิด และสุดท้ายน้ำผึ้งที่ได้นี้จะนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนต่อไป โดยอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของคนในชุมชน ซึ่งจะทำให้คนในชุมชนมีรายได้มากยิ่งขึ้น
ท้ายนี้ พัฒนาการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยทีมงานได้ร่วมกันปลูกเมล็ดพันธุ์ถั่วพระราชทาน ซึ่งเป็นกานรณรงค์การดำเนินกิจกรรม “น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกครัวเรือนร่วมกันปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานภายในครัวเรือนของตนเอง ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นี้
ChangeForGood
WorldSoilDay
GlobalSoilPartnership
UNFAO
CDD
SEPtoSDGs
SDGforAll@Kmitl
กรมการพัฒนาชุมชน
สถานีข่าว พช. CNS นนทบุรี รายงาน….