Home Environment สุดล้ำ! ‘บ้านปู เน็กซ์ อีพรอมต์มูฟ’ โซลูชันผลิตและกักเก็บไฟฟ้าพลังงานสะอาดเคลื่อนที่คันแรกในไทยจาก ‘บ้านปู เน็กซ์’

สุดล้ำ! ‘บ้านปู เน็กซ์ อีพรอมต์มูฟ’ โซลูชันผลิตและกักเก็บไฟฟ้าพลังงานสะอาดเคลื่อนที่คันแรกในไทยจาก ‘บ้านปู เน็กซ์’

0
สุดล้ำ! ‘บ้านปู เน็กซ์ อีพรอมต์มูฟ’ โซลูชันผลิตและกักเก็บไฟฟ้าพลังงานสะอาดเคลื่อนที่คันแรกในไทยจาก ‘บ้านปู เน็กซ์’

‘พลังงานไฟฟ้า’ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต และการดำเนินงานของทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจ แต่รู้หรือไม่? ปัจจุบันประเทศไทยยังพบปัญหาด้านการใช้ไฟฟ้าอยู่หลายประเด็น อาทิ การขาดแคลนไฟฟ้าเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าในกรณีเร่งด่วนได้ โดยเฉพาะในพื้นที่เกิดภัยพิบัติ หรือไฟฟ้าที่ใช้ไม่มีเสถียรภาพ ดังนั้นบ้านปู เน็กซ์ ในฐานะผู้ให้บริการด้านพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงนำความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจพลังงาน รวมถึงเทคโนโลยี และโซลูชันด้านพลังงานสะอาดมาพัฒนาเป็นต้นแบบชุดเครื่องผลิตและกักเก็บไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบออฟกริด (Off-grid) ‘บ้านปู เน็กซ์ อีพรอมต์มูฟ’ (Banpu NEXT e- PromptMove) ที่ประยุกต์ใช้กับรถเทรลเลอร์รายแรกในไทย มาพร้อมกับ 8 ข้อดีของชุดผลิตและกักเก็บไฟฟ้าฯ นี้ อาทิ สามารถเคลื่อนย้ายไปใช้งานได้ทุกพื้นที่แม้ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ พื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ครบวงจรทั้งผลิต กักเก็บ จ่ายไฟฟ้า และเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าได้อิสระ ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งยังช่วยตอบเทรนด์การใช้พลังงานสะอาดที่เพิ่มสูงขึ้น ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า
“บ้านปู เน็กซ์ เล็งเห็นปัญหา (Pain point) ด้านการขาดแคลนพลังงานในหลายพื้นที่รวมทั้งในยามวิกฤติ จึงต้องการเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานได้ง่าย รวดเร็ว และทั่วถึง ในฐานะบริษัทลูกของบ้านปูฯ ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter เราจึงได้นำนวัตกรรมความรู้ ประสบการณ์ด้านพลังงาน เทคโนโลยี และโซลูชันด้านพลังงานที่หลากหลาย มาพัฒนาต้นแบบชุดผลิตและกักเก็บไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ‘บ้านปู เน็กซ์ อีพรอมต์มูฟ’ (Banpu NEXT e- PromptMove) โซลูชันผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาดในรูปแบบรถเทรลเลอร์รายแรกของไทย ที่สามารถพร้อมเคลื่อนย้ายไปใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งทีมนักวิจัย วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านของบ้านปู เน็กซ์ ได้ร่วมกันคิดค้นโซลูชัน และหาเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานมาออกแบบและผสานเข้าด้วยกันได้อย่างรัดกุม โดยเน้นเรื่องการทำงานแบบครบวงจร ความกะทัดรัด และปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานตรงตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยได้ผ่านการตรวจสอบ และทดลองระบบเป็นที่เรียบร้อย จึงสามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”

Banpu NEXT e- PromptMove มีขนาดกว้าง 2,300 มิลลิเมตร ยาว 4,500 มิลลิเมตร และสูง 2,825 มิลลิเมตร มีน้ำหนักโดยรวมประมาณ 3,000 กิโลกรัม ซึ่งตัวรถประกอบด้วยระบบฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่ทำงานสอดประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบฮาร์ดแวร์ ได้แก่ แผงโซลาร์เซลล์ชนิดพิเศษน้ำหนักเบา จำนวน 12 แผง กำลังการผลิตรวมกว่า 4,320 วัตต์ แบตเตอรี่ลิเธียมเฟอร์โรฟอสเฟต (LFP) คุณภาพสูง อุปกรณ์แปลงผันไฟฟ้า (Inverter) ตัวรถเทรลเลอร์ ออกแบบและผลิตขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน และแข็งแรงทนทาน รวมถึงมีระบบจอแสดงผลภายในรถ สำหรับตรวจสอบข้อมูลการใช้ไฟฟ้า ด้านระบบซอฟต์แวร์ มีระบบการบริหารจัดการพลังงาน (Energy management system) และอินเทอร์เน็ตออฟติงส์ (IoT) เพื่อใช้ควบคุมการผลิต กักเก็บ และประมวลผลการทำงาน เรียกได้ว่าเป็นรถเทรลเลอร์ที่เหมาะจะนำไปใช้ในพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง พื้นที่ประสบภัยพิบัติ หรือพื้นที่ที่ต้องการหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง อย่าง หน่วยแพทย์ หน่วยซ่อมบำรุง เป็นต้น

บ้านปู เน็กซ์ สรุป 8 ข้อดีของ Banpu NEXT e- PromptMove

  1. เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าพลังงานสะอาด 100% และครบวงจร – ด้วยองค์ประกอบของ Banpu NEXT e- PromptMove ทำให้สามารถผลิต กักเก็บ และแปลงไฟฟ้าเพื่อใช้งานได้แบบครบวงจร ที่สำคัญเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่พึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิง อีกทั้งไฟฟ้าที่ผลิตได้ สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพ
  2. เข้าถึงได้ทุกพื้นที่ ทุกสถานการณ์ – ตัวรถเทรลเลอร์ ถูกออกแบบให้เคลื่อนที่ได้ง่าย มีระบบลากจูง สามารถนำไปต่อพ่วงกับรถได้ทุกชนิด รวมถึงตัวรถยังเคลื่อนที่ผ่านระดับน้ำสูงได้ถึง 90 เซนติเมตร กันน้ำ กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP55 และมีระบบระบายอากาศภายใน จึงสามารถนำไปใช้ในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้
  3. ผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร้ขีดจำกัด แม้ในพื้นที่แสงน้อย – ใช้แผงโซลาร์เซลล์ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline silicon) คุณภาพสูงระดับเทียร์ 1 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุด และใช้ระบบผลิตไฟฟ้าแบบออฟกริด (Off-grid) จึงผลิตไฟฟ้าได้เอง 100% แม้ในสภาพอากาศที่มีแสงน้อย
  4. กักเก็บพลังงานไว้ใช้ยามกลางคืน หรือเหตฉุกเฉินได้ – Banpu NEXT e- PromptMove มีแบตเตอรี่ในตัว จึงสามารถกักเก็บพลังงานไว้ใช้ในช่วงกลางคืนได้ สามารถจ่ายไฟได้อย่างต่อเนื่อง และช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการจ่ายไฟ ซึ่งแบตฯ ตัวนี้สามารถเก็บพลังงานได้สูงสุด 34.4 กิโลวัตต์/ชั่วโมง เทียบเท่ากับการเปิดไฟจากหลอด LED ขนาด 5 วัตต์ จำนวน 100 หลอดได้ยาวนานกว่า 68 ชั่วโมง
  5. มอนิเตอร์ผลการผลิต กักเก็บ และใช้ไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ – มีแอปพลิเคชันในการตรวจสอบการทำงานของ
    แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรรี่ รวมถึงแสดงผลการผลิต และการใช้ไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้เอื้อต่อการวางแผนในการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถวางแผนซ่อมบำรุงได้ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีระบบคำนวณเปรียบเทียบการลดการสร้าง CO2 ในอากาศจากการใช้งานอีกด้วย
  6. มีความปลอดภัยสูง – ทุกองค์ประกอบของ Banpu NEXT e- PromptMove มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล อาทิ เซลล์แบตเตอรี่มีความแข็งแรงสูง ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ดี หากเกิดความเสียหายจะไม่ระเบิด หรือลุกไหม้ ตัวรถเทรลเลอร์มีชุดเพลาล้อพร้อมระบบรองรับการสั่นสะเทือน รวมถึงมีการติดตั้งระบบกันไฟช๊อต ไฟดูด ไฟไหม้ การป้องกันการระเบิด รวมถึงมีระบบสายดิน (Grounding) เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านลงดิน
  7. ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก – สามารถกาง และเก็บแผงโซลาร์เซลล์ได้ด้วยรีโมทคอนโทรลที่มีการออกแบบการใช้งานอย่างรัดกุม รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบล๊อคแผงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
  8. มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 10 ปี – โดยแผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 25 ปี และแบตเตอรี่มีอายุ
    การใช้งานไม่ต่ำกว่า 10 ปี หรือสูงสุด 10,000 รอบการใช้งาน
  9. “บ้านปู เน็กซ์ เชื่อว่าด้วยความพร้อมด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยี โซลูชันด้านพลังงาน และทีมผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้เราสามารถนำต้นแบบนวัตกรรมนี้ไปต่อยอด และพัฒนาให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละหน่วยงานในอนาคตหรือผู้บริโภครายย่อยได้ เช่น นำไปพัฒนาเป็นรถหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หรือรถบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ยังเชื่อว่าขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดของบ้านปู เน็กซ์ ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ แต่เราสามารถนำความพร้อมทั้งหมดมาพัฒนาโซลูชัน และนวัตกรรมต่างๆ ที่ตอบเทรนด์การใช้พลังงานแห่งอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นางสมฤดี กล่าวสรุป