Home Vehicle เอเอเอสฯ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถปอร์เช่โดยไม่ต้องรอ

เอเอเอสฯ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถปอร์เช่โดยไม่ต้องรอ

0
เอเอเอสฯ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถปอร์เช่โดยไม่ต้องรอ

ปอร์เช่ ประเทศไทย เสริมทัพความแข็งแกร่งให้แก่ยนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้าด้วยไทคานน์ ใหม่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (The new Taycan)

บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (AAS) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัว ไทคานน์ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (The new Taycan) ยนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นล่าสุดอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา เดินหน้าลุยตลาดยนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้าอย่างเต็มศักยภาพและตอกย้ำแผนกลยุทธ์ Sustainability ให้ความสำคัญกับพลังงานการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน

ธนบดี กุลทล ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปอร์เช่ ไทคานน์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั่วโลก ขณะเดียวกันในประเทศไทยเองก็ได้รับตอบรับที่ดีจากลูกค้าตลอดมานับตั้งแต่เปิดตัว การมาถึงของ ไทคานน์ ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง นับเป็นทางเลือกที่หลากหลายขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้ายนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้า ระดับพรีเมียม เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการมีความพร้อมในทุกๆ ด้านเพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงไทคานน์ ใหม่ ได้ง่ายยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่จำนวนรถที่พร้อมให้ท่านเลือกเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องรอและบริการหลังการขายที่จะทำให้ลูกค้าปอร์เช่มั่นใจได้ว่าซื้อรถไทคานน์จาก เอเอเอสฯ จะได้รับการดูแลอย่างดี โดยช่างผู้ชำนาญการพิเศษซึ่งได้รับการอบรมมาโดยเฉพาะจากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนี”

เอเอเอสฯ มอบทางเลือกใหม่ สำหรับไทคานน์ด้วยรูปแบบการตกแต่งภายในห้องโดยสารถึง 5 รูปแบบและเฉดสีตัวถังใหม่ทั้งหมด 7 สี ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,190,000 บาท โดยท่านสามารถทดลองขับ ไทคานน์ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมปอร์เช่ทุกสาขา นอกจากนี้รถยนต์ปอร์เช่จากเอเอเอสฯ ทุกคันยังจะได้รับสิทธิการซื้อการรับประกันจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีนานสูงสุดถึง 15 ปี พิเศษสุดสำหรับยนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้า ไทคานน์ ทุกรุ่นจะได้รับการรับประกันแบตเตอรี่นานสูงสุด 8 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่ (The new Porsche Taycan)
ไทคานน์ ใหม่ (The new Taycan) รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังและทางเลือกจากแบตเตอรี่ 2 ขนาดความจุ สำหรับขนาดมาตรฐาน Performance Battery ให้พละกำลังสูงสุดถึง 408 แรงม้า (300 กิโลวัตต์) เมื่อทำงานใน overboost mode และ Launch Control ยกระดับศักยภาพสูงสุดกว่า 476 แรงม้า (350 กิโลวัต์) จากอุปกรณ์พิเศษ Per-formance Battery Plus สำหรับการทำงานในโหมดปกติให้กำลังที่ 326 แรงม้า (240 กิโลวัตต์) หรือ 380 แรงม้า (280 กิโลวัตต์) ตามลำดับ ในส่วนของพิสัยระยะการเดินทางสามารถทำได้ที่ 354 – 431 กิโลเมตร

ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ให้อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 5.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้ง 2 ขนาดความจุแบตเตอรี่ขณะที่สามารถรองรับการประจุพลังงานได้สูงสุดที่ 225 กิโลวัตต์ (Performance Battery) หรือ 270 กิโลวัตต์ (Performance Battery Plus) หมายความว่าแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขนาด จะใช้ระยะเวลาในการชาร์จพลังงานจาก 5 – 80 % ในสภาวะการชาร์จไฟปกติ เพียง 22.5 นาที และสะสมพลังงานจนวิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตร หลังจากการชาร์จเพียง 5 นาทีเท่านั้น