KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) เผยลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงมีความสนใจใช้บริการที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Land Loan for Investment เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารจัดการสภาพคล่องและเพิ่มผลตอบแทนจากการถือครองพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ที่ส่วนมากไม่สร้างผลตอบแทนในปัจจุบัน ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 100 รายที่เข้าร่วมโครงการ ปีนี้ตั้งเป้าสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 5-6% พร้อมเดินหน้านำเสนอบริการครบวงจร ครอบคลุมการศึกษาพอร์ตที่ดิน และการใช้ประโยชน์ที่ดิน

นางกรกช อรรถสกุลชัย Executive Director, Head of Non Capital Market Solution, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาบริการที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Advisory Service) เป็นหนึ่งในบริการที่เติบโตสูงที่สุดของ ไพรเวทแบงก์ของธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากลูกค้าเล็งเห็นความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้จำนวนมาก ที่ผ่านมาแม้ว่าที่ดินจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นมาก แต่ไม่ได้สร้างรายได้เป็นกระแสเงินสดให้ใช้จ่ายได้ นอกจากนี้ ลูกค้ายังต้องวางแผนสำหรับค่าใช้จ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เริ่มจัดเก็บไปแล้ว โดยในปี 2563 ไพรเวทแบงก์ของธนาคารกสิกรไทยได้ให้บริการที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงจำนวน 121 ราย โดยครอบคลุมที่ดินทั้งหมด 2,500 แปลง และให้บริการครบวงจรหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษาด้านภาษีที่ดิน การใช้ประโยชน์ และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
Land Loan for Investment เป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และเริ่มนำที่ดินมาขอสินเชื่อเพื่อลงทุนกับ KBank Private Banking แล้วกว่า 100 ราย โดยมีการตั้งวงเงินสินเชื่อไปแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท โดยพบว่าส่วนใหญ่เป็นที่ดินในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเริ่มเห็นในจังหวัดหัวเมืองใหญ่มากขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ในปีนี้คาดว่าผลิตภัณฑ์ Land Loan for Investment จะเติบโตต่อเนื่อง ด้วยโอกาสจากพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของลูกค้ากว่า 90% ยังถือเป็นที่ดินที่ยังรอการพัฒนาหรือยังไม่พร้อมพัฒนา รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำจนกว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และภาวะตลาดที่เป็นโอกาสในการเข้าลงทุน ทำให้ลูกค้าเริ่มแสวงหาแนวทางการลงทุนใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำสินทรัพย์ที่ไม่มีสภาพคล่อง เช่น ที่ดิน มาเปลี่ยนเป็นเงินลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าได้
สำหรับการลงทุนเพื่อต่อยอดประโยชน์จากที่ดินในครอบครอง KBank Private Banking แนะนำให้ลูกค้าลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยลงทุนในกองทุนที่มีการควบคุมความเสี่ยงที่สามารถให้ผลตอบแทนในระยะยาว ควบคู่ไปกับกองทุนในธีมที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในยุคนี้ เช่น เทคโนโลยี สุขภาพ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจีน นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ลงทุนในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงสู่ New Economy เช่น เทคโนโลยี พลังงานทางเลือก เป็นต้น และผสมผสานกลุ่ม Cyclical อาทิ พลังงาน ธนาคาร หรือ ค้าปลีก เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการสำรวจผู้มีความมั่งคั่งสูงในประเทศไทยของ Lombard Odier พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ KBank Private Banking พบว่า การมีบริการพิเศษที่นอกเหนือบริการด้านการลงทุนส่งผลอย่างมากต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการของธนาคาร และผลตอบรับของบริการที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของลูกค้าเป็นอย่างดี โดย Land Loan for Investment ถือเป็นความมุ่งมั่นที่ธนาคารสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลูกค้าบริหารจัดการความเสี่ยง และช่วยคลายความกังวลด้านการบริหารสินทรัพย์อย่างครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่ถือครองที่ดินมูลค่าสูงและมีความต้องการบริหารจัดการเรื่องภาษี
ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นรอบด้าน บริการที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์จึงไม่เป็นเพียงบริการเสริมที่ KBank Private Banking มอบให้แก่ลูกค้า แต่ยังถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการบริหารความมั่งคั่งในยุคปัจจุบัน ในปีนี้เราจะเดินหน้าที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้ลูกค้าอย่างน้อย 200 ครอบครัว และตั้งเป้าว่าจะสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยเพิ่มเติมประมาณ 5-6% จากอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่สร้างราย ได้ผ่านผลิตภัณฑ์ Land Loan for Investment โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือหลักที่ทำให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าและเป็นผู้ชนะทุกสภาพตลาดได้ในระยะยาว