อมาโด้ ประกาศเป้าปี 2564 แตะ 3,000 ล้านบาท หลังยืนหนึ่งเติบโตเหนือตลาด ปิดปี 2563 ด้วยยอดขาย 2,298 ล้านบาท เติบโต 231.14% เป็นมูลค่าถึง 1,600 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวม วิตามินและอาหารเสริมที่เติบโต 8.5% พร้อมกางแผนธุรกิจ ชู 3 กลยุทธ์หลัก เตรียมเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ทุกไตรมาส ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ด้วยคำมั่นสัญญา “We Live For Your Health” ส่งแบรนด์ครองใจผู้บริโภค พร้อมเดินกลยุทธ์ต่อยอดช่องทางขายทรงประสิทธิภาพภายใต้กลยุทธ์ Real-Time Strategic Platform สร้างธุรกิจใหม่เพิ่มมูลค่าธุรกิจ ผนึกเข้ากับ Data Driven Marketing ชูหมัดเด็ดเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ “Amado Shopping” เขย่าวงการทีวีโฮมช้อปปิ้งด้วยจุดแข็งคิด “GP” ต่ำเพียง 25% รวมเรตติ้งประสิทธิภาพจากช่องทีวีชั้นนำของประเทศ และจัดโปรโมชั่นสินค้าจับกลุ่มเป้าหมาย ของแต่ละช่องได้แบบเฉพาะเจาะจง ตั้งเป้าปีแรกกวาดรายได้ 1,000 ล้านบาท ผงาดขึ้นแท่นท็อป 1 ใน 10 ของตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งไทย จากการใช้ข้อมูลขับเคลื่อนการตลาด เพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้ 2เท่า ลุยเดินหน้าเข้าตลาด mai
นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (Amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริม อาหารชั้นนำ เผยจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา อมาโด้วางกลยุทธ์สานต่อความสำเร็จให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยิ่งขึ้น
ทั้งนี้โดนใช้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.กลยุทธ์นำแบรนด์อมาโด้ก้าวสู่แบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค ด้วยกำหนดคำมั่นสัญญา (Brand Promise) เป็น “We Live For Your Health” ให้ตลาดและผู้บริโภคจดจำอมาโด้ คือผู้ผลิตวิตามินอาหารเสริมที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นเกราะป้องกันสุขภาพของคนไทย ด้วยการรีแบรนด์ และรีแพ็คเกจใหม่ทั้งหมด 2.กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพ ตอบสนองความ ต้องการตลาด ด้วยทีม Research & Development ผู้ชำนาญการ คอยคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกไตรมาส โดยผลิตภัณฑ์ตัวแรกของปีนี้เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มโปรไบโอติก เกรดพรีเมี่ยม ตีตลาดสุขภาพ 3.กลยุทธ์เดินหน้าสร้างช่องทางขายที่หลากหลายและทรงประสิทธิภาพที่ตอบสนองทันทีทันใด (Real-Time Strategic Platform) ด้วยความสามารถในการมองหาช่องทางขาย ทรงประสิทธิภาพ ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีศักยภาพ โดยมีแผนเพิ่มร้านอมาโด้ใหม่อีก 56 สาขา เป็น 100 สาขา เพิ่มตัวแทนขายอีก 25 ราย รวมกับตัวแทนปัจจุบันเป็น 50 ราย
นอกจากนี้ ล่าสุดยังได้เปิดตัว Amado Shopping นับเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ หรือ New Business Model บุกตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้ง และยังเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการดังกล่าวด้วยการนำจุดแข็งด้านความสามารถ คัดสรรช่วงเวลาที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดของสถานีโทรทัศน์ชั้นนำในประเทศ มาผนวกเข้ากับ Data Driven Marketing เครื่องมือทางการตลาดที่ทรงประสิทธิภาพในการนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นตรงกลุ่ม เป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นถึง 2 เท่า
โดยโมเดลธุรกิจใหม่ดังกล่าว เกิดจากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ หลังจากเดินหน้าทำการตลาดผ่านช่องทางเทเลเซลล์ ด้วยการนำสินค้าไปโปรโมทขายตามรายการต่าง ๆ ของสถานีโทรทัศน์ชั้นนำนับเป็นการต่อยอดช่องทางขายสู่ธุรกิจใหม่และนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าธุรกิจ ผนวกกับตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งยังมีมูลค่าการเติบโตน่าจับตา โดยเฉพาะยุคโควิด-19 ประกอบกับผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกดิจิทัล ผู้คนดูทีวีออนไลน์ย้อนหลังมากขึ้น ส่งผลให้ปี 2563 ตลาดดังกล่าวมีมูลค่าถึง 14,000 ล้านบาท
“Amado Shopping ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางสำหรับจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังเปิดรับ พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ต้องการนำสินค้ามาจัดจำหน่ายผ่านทาง Amado Shopping ซึ่งโมเดลธุรกิจใหม่ของ อมาโด้ถือเป็นการนำจุดแข็งของอมาโด้มาสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับธุรกิจใหม่มากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถเก็บรวบรวมสะสมข้อมูลลูกค้าเป็น Big Data ที่เป็นขุมทรัพย์สำคัญของธุรกิจ ผนวกกับศักยภาพของอมาโด้ในการทำ Data Driven Marketing สู่การเพิ่มมูลค่ามหาศาลให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” นายธนาตรัยฉัตร กล่าว
ทั้งนี้ Amado Shopping มีจุดเด่นคือ 1.มีทีมเทเลเซลล์รับสายพร้อมปิดการขาย 200 คน 2.มีบริการส่ง สินค้ารวดเร็วมีประสิทธิภาพภายใต้การบริการของอมาโด้เอง สามารถส่งของได้ภายใน 48 ชั่วโมง 3.มีคลังสินค้า จัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่ 3 ไร่ครึ่ง และคาดการณ์จะขยายเป็น 6 ไร่ ในอนาคต มีความสามารถในการจัดเก็บ และบริหารสต๊อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 4.มีช่วงเวลาการออกอากาศ (เรตติ้ง) ที่ดีและมีประสิทธิภาพของ แต่ละช่องรวมมากกว่า 3,000 ออนแอร์แบบ Tie-in 5. GP ต่ำกว่าตลาดเพียง 25% 6.ฐานข้อมูลลูกค้า (Data Driven) และเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ช่วยให้สามารถจัดโปรโมชั่นและสินค้าแบบเจาะลึกตรงกลุ่ม เป้าหมายในแต่ละช่อง แต่ละรายการ สามารถสร้าง รายได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และ 7.สามารถตรวจสอบยอดขาย และคำนวณ ROI ได้แบบ Real-Time ซึ่งในปีนี้อมาโด้ตั้งเป้ามีรายได้จาก Amado Shopping ถึง 1,000 ล้านบาท และก้าวขึ้นเป็นท็อป 1 ใน 10 ของตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งในประเทศ
นายพร้อมวิชญ์ กรณ์อัศวกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า อมาโด้ตั้งเป้าหมายรายได้เป็น 3,000 ล้านบาท ในปี 2564 ซึ่งจะส่งผลให้อมาโด้ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ของตลาด ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และจะก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ในอีก 3 ปีข้างหน้า ประกอบกับเดินขยายธุรกิจรองรับการนำ บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภาพในปลายปีนี้หรือต้นปี โดยในปีที่ผ่านมา อมาโด้ ประสบผลสำเร็จด้วยยอดขาย 2,298 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 231.14% คิดเป็นมูลค่า 1,600 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้ 694 ล้านบาท อัตราการเติบโตดังกล่าวคิดเป็น 10% ของตลาดวิตามินและอาหารเสริม ที่มีมูลค่า 22,621 ล้านบาท และมีมูลค่าการเติบโตสูงกว่าตลาดรวม ที่เติบตัวเลขเฉลี่ย 8.5%
โดยรายได้ดังกล่าวแบ่งตามช่องทางขายต่าง ๆ ดังนี้ ตัวแทน 49% เทเลเซลล์ 29% ออนไลน์ 16.8% ร้านค้า อมาโด้ 3% โมเดิร์นเทรด 2.2% เป็นเพศหญิงกว่า 87% และเพศชาย 13% และกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งมีกำลังซื้อสูงกว่า 51% สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มลูกค้าของอมาโด้เป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงที่พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นตัวช่วยดูแลสุขภาพและความงาม
จากสัดส่วนรายได้ดังกล่าวทำให้เห็นว่าฐานลูกค้าเทเลเซลล์จากการขายของในรายการโทรทัศน์และออนไลน์ เติบโต ใกล้เคียงกัน ทำให้อมาโด้มองเห็นโอกาสเพิ่มมูลค่าธุรกิจ สู่การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ “Amado Shopping” ความสำเร็จของอมาโด้ที่ผ่านมาเกิดจากแก่นในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ (Core Business) 3 ด้าน ได้แก่ 1.มี Research & Development คิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง 2.สร้างช่องทางขายที่หลากหลายและทรงประสิทธิภาพที่ตอบสนองทันทีทันใด (Real-Time Strategic Platform) 3.การขับเคลื่อนการตลาดด้วยข้อมูล หรือ Data Driven Marketing ด้วยการนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์หาความต้องการของลูกค้าในเชิงลึก (Customer Insight) สู่การออกแบบโปรโมชั่นและนำเสนอสินค้าให้ตรงตามความต้องการดังกล่าว ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะ