ร้อยเรียงตัวอักษร พล็อตเรื่องเรียลสะท้อนสังคม
​ไม่มีข้อกังขาใดๆ สำหรับความเรียลที่เหมือนหันกระจกสะท้อนสังคม ในละคร “ซ่านเสน่หา” ทางช่อง 3 ผลงานของผู้จัด “ตู่ ปิยวดี” ที่ได้ผู้ประพันธ์บทละครโทรทัศน์ อย่าง “อาจารย์แดง ศัลยา สุขะนิวัตติ์” หนึ่งในผู้ร่วมสร้างปรากฏการณ์ “ออเจ้า” ที่สนั่นบ้านสนั่นเมืองกับ “บุพเพสันวิวาส” มาจรดปลายปากกาถ่ายทอดพล็อตละครบาดลึกกรีดหัวใจคนดู โดยพระ-นาง “เต้ย พงศกร” และ “มิ้นต์ ชาลิดา” และทีมนักแสดงรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มากฝีมืออีกมากมาย ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นบทละครที่หลายคนถูกใจก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

​เมื่อพูดถึง อาจารย์แดง ศัลยา สุขะนิวัตติ์ เชื่อว่าหลายคนต้องคุ้นหู บุคคลตัวอย่างที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการการเขียนบทละครโทรทัศน์ประเทศไทยมามากกว่าหลายสิบปี เป็นเจ้าของผลงานที่สร้างชื่อไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น คู่กรรม, ดอกส้มสีทอง, บุพเพสันวิวาส, พรหมลิขิต ฯลฯ จนนำมาสู่ผลงานที่กำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้ “ซ่านเสน่หา” ละครพล็อตแซ่บสอนใจสะท้อนมุมความคิดที่ทำคนดูต้องจุก พร้อมฉีกทุกกฎของละครไทยในปัจจุบันจนต้องปักหมุดนัดดูทุกตอน จึงเป็นที่มาขอการเปิดใจพูดคุยถึงการรับเขียนบทละครเรื่องนี้โดย อ.แดง ศัลยา ได้พูดว่า
“พอได้อ่านตัวหนังสือนิยายก็อ่านไปถึง 2 รอบนะคะ ก่อนที่จะตอบรับ เรื่องนี้ไม่เหมือนกับเรื่องอื่นๆ พอเริ่มต้นชื่อเรื่องก็หวือหวามาก พอได้อ่านแล้วถึงเข้าใจว่าเป็นเรื่องของคนที่อยู่ในสังคมสมัยใหม่ บวกกับตัวละครบางตัวที่เขายังคิดแบบเก่าอยู่ในสังคมแบบเก่า แล้วยิ่งพอมาเป็นเรื่องราวของพ่อลูกที่ต้องต่อสู้กับความคิดทั้ง 2 แบบ ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนใจดี มันต่อยอดได้เยอะมีไดอะล็อคที่น่าสนใจหลายคำทีเดียวที่รู้สึกว่าอยากจะเอามาให้คนดูได้ฟัง”

​“เรื่องนี้อารมณ์มันค่อนข้างเครียดและมุมมองของแต่ละคนก็สุดโต่งมากโดยเฉพาะตัวของนางเอกที่มีความคิดไปอีกด้านหนึ่งไม่มีคำว่าตรงกลาง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับความรักความท้าทายของเรื่องนี้ก็คือเราอยากจะเขียนให้ตัวละครรอบตัวนางเอกต้องเผชิญกับความคิดแบบเดียวกันอันนี้แหละเราจะเขียนยังไง ยิ่งตัวพระเอกเขาจะต้องต่อสู้กันยังไงให้มาอยู่ที่จุดของความพอดี ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งก็คือความคิดของคนสมัยใหม่และสมัยเก่าที่ต้องต่อสู้กัน ความคิดของพ่อที่โบราณมากกับลูก 3 คน ที่มีวิธีการตอบโต้ความคิดของพ่อไม่เหมือนกัน เขาจะมีมุมมองความคิดของพ่อที่ไม่เหมือนกันเลยอันนี้น่าสนใจแม้แต่ตอนเขียนยังสนุก”
​นอกจากนี้ ยังได้พูดถึงความหมายของคำว่า ซ่านเสน่หา ในความหมายของตัวเองว่า “มันก็สมชื่อนะคะ คำว่า ‘เสน่หา’ มันก็คือความรัก ‘ซ่านเสน่หา’ มันคือความรักที่แผ่ซ่านไปทั่ว และละครเรื่องนี้ก็ตอบโจทย์คือเป็นรูปแบบในความรักที่ต่างกัน ยอมรับเลยว่าตอนที่ครูเขียนคำว่าซ่านมันดังอยู่ในหัวตลอดเวลา มันเป็นคำที่มันไม่เคยมีปรากฎในชื่อเรื่องละครเรื่องไหน คนที่ได้ยินก็คงนึกอยากจะดูอะไรที่มันซ่านๆ หรือวาบหวิว เพราะอย่างนั้นก็ต้องเขียนให้ออกมาเป็นแบบนั้นเหมือนกัน เรื่องนี้เลิฟซีนเยอะ เลิฟซีนที่นุ่มนวลก็มี ร้อนแรงก็มี คือมันเป็นความรักที่ซาบซึ้งตรึงใจมากค่ะ อันนี้ก็เป็นความรักที่ซ่านซึมอยู่ในละครอยู่ในชีวิตของคนเหล่านี้ เวลาครูเขียนเรื่องนี้แฮปปี้มากเพราะว่าเราไม่ต้องคิดอะไรที่ไม่ใช่ความจริง ฉะนั้นเราสามารถตั้งตัวเราให้เป็นตัวละครทุกตัว เขียนเรื่องนี้ไม่ต้องหาวิธีหลบหลีกเลย มันคือละครชีวิตจริง ส่วนการแสดงครูก็หวังว่านักแสดงต้องแสดงไม่เฟกต้องเรียลตามบทซึ่งมันเป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้”
​ได้ อ.แดง ศัลยา มาการันตีความเข้มข้นขนาดนี้ แฟนๆ จะอดใจยังไงไหว! ปักหมุดรอชมไปพร้อมกันในละครนี้ครบรส “ซ่านเสน่หา” ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3Plus